5 สาเหตุพืชใบเหลือง
1. ให้น้ำมากเกินไป
- รากเน่า ดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้ไม่ดี
- ใบเหลืองซีด เหี่ยวเฉา
- ดินแฉะ มีน้ำขัง
**วิธีแก้ไข:**
- รดน้ำให้น้อยลง เช็คความชื้นของดินก่อนรดน้ำ
- เปลี่ยนดินให้ระบายน้ำได้ดี
- ตัดแต่งรากเน่า
2. ขาดธาตุอาหาร
- ธาตุอาหารหลัก: ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม
- ธาตุอาหารรอง: แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน เหล็ก สังกะสี ทองแดง โบรอน โมลิบดีนัม
- ใบเหลืองซีด มีลวดลาย ขอบใบแห้ง ไหม้
**วิธีแก้ไข:**
- ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารที่พืชขาด
- เลือกปุ๋ยให้เหมาะกับชนิดของพืช
- ใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม
3. แสงแดดมากเกินไป
- ใบเหลืองไหม้ เกิดรอยด่าง
- ใบแห้งกรอบ
**วิธีแก้ไข:**
- ย้ายพืชไปไว้ที่ร่มรำไร
- พรางแสงแดดด้วยสแลน
4. โรคและแมลงศัตรูพืช
- โรครา ใบจุด ใบไหม้
- แมลงดูดน้ำหวาน กัดกินใบ
**วิธีแก้ไข:**
- ใช้สารกำจัดเชื้อรา หรือยาฆ่าแมลง
- เลือกใช้สารเคมีที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
5. อุณหภูมิ
- อุณหภูมิสูง ใบเหลืองไหม้
- อุณหภูมิต่ำ ใบเหลืองซีด
**วิธีแก้ไข:**
- ย้ายพืชไปไว้ที่อุณหภูมิที่เหมาะสม
- ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
การจะบอกได้ว่าพืชใบเหลืองขาดธาตุอาหารอะไรนั้น จำเป็นต้องสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ลักษณะของใบ ลำต้น ราก ดิน ตรวจสอบสภาพแวดล้อม แสงแดด อุณหภูมิ ความชื้น
อาการใบเหลืองสามารถบ่งบอกถึงธาตุอาหารที่พืชขาดได้ดังนี้
**1. ธาตุไนโตรเจน (N)**
- ใบแก่เหลืองซีด เริ่มจากปลายใบ ลามเข้าสู่ส่วนกลางของใบ
- การเจริญเติบโตช้า แคระแกรน
- ออกดอกออกผลน้อย
**2. ธาตุฟอสฟอรัส (P)**
- ใบแก่เหลืองซีด มีสีม่วงแดง
- ลำต้นแคระแกรน ดอกและผลเล็ก
**3. ธาตุโพแทสเซียม (K)**
- ใบมีจุดสีน้ำตาล ปลายใบแห้ง ไหม้
- ลำต้นอ่อนแอ โรคพืชง่าย
- ผลเล็ก คุณภาพต่ำ
**4. ธาตุแคลเซียม (Ca)**
- ใบเหลืองซีด ปลายใบแห้ง
- รากเน่า โตช้า
- ผลร่วงง่าย
**5. ธาตุแมกนีเซียม (Mg)**
- ใบมีลวดลายสีเหลือง คล้ายหินอ่อน
- ใบแก่ร่วงง่าย
- ผลเล็ก คุณภาพต่ำ
**6. ธาตุเหล็ก (Fe)**
- ใบอ่อนเหลืองซีด เส้นใบยังเขียว
- การเจริญเติบโตช้า
- ใบเล็ก ดอกน้อย
**7. ธาตุสังกะสี (Zn)**
- ใบเล็ก แคระแกรน
- ใบมีจุดสีขาว เหลือง
- โรคพืชง่าย
**8. ธาตุทองแดง (Cu)**
- ใบมีสีเขียวจัด ค่อยๆ เหลือง
- ยอดอ่อนตาย
- ผลเล็ก คุณภาพต่ำ
**9. ธาตุโบรอน (B)**
- ใบหนา หยาบ เปราะ
- ยอดอ่อนตาย
- ผลร่วงง่าย
**10. ธาตุโมลิบดีนัม (Mo)**
- ใบเหลืองซีด มีจุดสีน้ำตาล
- ดอกและผลเล็ก
**วิธีแก้ไข:**
- ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารที่พืชขาด
- เลือกปุ๋ยให้เหมาะกับชนิดของพืช
- ใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม