องค์ความรู้เรื่อง #สารสกัดสะเดา ภูมิปัญญาเกษตรที่ช่วยลดต้นทุนและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
สะเดาเป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลาย และมีสารสำคัญที่ชื่อว่า #อะซาดิแรคติน (Azadirachtin) ซึ่งมีฤทธิ์ในการป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช โดยพบมากที่สุดในส่วนของเมล็ด
ชนิดสะเดาที่พบในไทย
สะเดาแต่ละชนิดมีปริมาณสารสำคัญแตกต่างกันไป
สะเดาอินเดีย (Azadirachtin indica) มีสาร AZA สูงที่สุด 7.6 mg/g
สะเดาไทย (Azadirachtin siamensis) มีสาร AZA 6.7 mg/g
สะเดาช้าง/เทียม (Azadirachtin excelsa) มีสาร AZA 4.0 mg/g
สารสกัดสะเดาออกฤทธิ์ต่อแมลงอย่างไร?
เป็นสารไล่แมลง
ขัดขวางการลอกคราบ ทำให้โตไม่เต็มวัยหรือผิดปกติ
ทำลายระบบทางเดินอาหาร
ทำให้แมลงเบื่ออาหาร
รบกวนการผลิตไข่ การวางไข่ และทำให้ไข่ฝ่อ
ลดความสามารถในการเคลื่อนไหวและผสมพันธุ์
สูตรการสกัดสารสะเดาไว้ใช้เอง
สูตรสกัดด้วยเหล้าขาว
เมล็ดสะเดาแห้งบด 5 กิโลกรัม
เหล้าขาว 40 ดีกรี 6 ขวด (630 มล.)
น้ำสะอาด 7 ลิตร
น้ำส้มสายชูกลั่น 5% 1 ขวด (700 มล.)
สูตรสกัดด้วยแอลกอฮอล์
เมล็ดสะเดาแห้งบด 5 กิโลกรัม
แอลกอฮอล์ 70% 5 ขวด (450 มล.)
น้ำสะอาด 9 ลิตร
น้ำส้มสายชูกลั่น 5% 1 ขวด (700 มล.)
วิธีการสกัด
ผสมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอล์กับน้ำส้มสายชูในถังทึบแสง จากนั้นใส่เมล็ดสะเดาบดลงไป คนให้เข้ากัน ปิดฝาให้สนิท หมักทิ้งไว้ 7 วัน (ต้องคนทุกวัน) เมื่อครบกำหนดให้กรองเอาเฉพาะน้ำ เก็บในที่ร่มและเย็น
วิธีการนำไปใช้
ผสมสารสกัดสะเดา 60 - 80 มล. (ประมาณ 4 - 6 ช้อนแกง) ต่อน้ำ 20 ลิตร และควรผสมสารจับใบ ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้นพืชในช่วงเวลาเย็นแดดอ่อน กรณีใช้กับพืชผักหรือพืชอายุน้อย ให้ลดความเข้มข้นลงครึ่งหนึ่ง
เทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพ
#การเก็บรักษา สารอะซาดิแรคตินสลายตัวง่ายเมื่อโดนความร้อนและแสงแดด ควรเก็บสารสกัดในที่ร่มและเย็น
#ช่วงเวลา ควรเริ่มฉีดพ่น “ก่อน” ที่แมลงจะระบาดหนัก โดยฉีดพ่นติดต่อกัน 3-4 ครั้ง ทุกๆ 5-7 วัน และหมั่นสำรวจแปลงเสมอ
#ชนิดของแมลง สารสกัดสะเดาใช้ได้ผลดีกับแมลงบางชนิด
ได้ผลดีมาก: หนอนกระทู้ชนิดต่างๆ, หนอนใยผัก, เพลี้ยอ่อน, เพลี้ยไก่แจ้
ได้ผลปานกลาง: หนอนเจาะสมอฝ้าย, หนอนเจาะผลมะเขือ, เพลี้ยจักจั่น, เพลี้ยไฟ, ไรแดง