การแจ้งเตือนการระบาดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบัน ดังนั้นเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและทำความเข้าใจไว้จะมีประสิทธิภาพในการควบคุมดีที่สุดครับ
สรุปหลัก 3 ถูกในการใช้สารเคมีควบคุมศัตรูพืชถูกเวลา = นอกจากการเลือกใช้สารเคมีที่มีประสิทธิภาพแล้วผมคิดว่า #ที่สำคัญสุดในการป้องกันกำจัดคือช่วงเวลาครับ เพราะหากปล่อยให้บั่วทำลายจนข้าวแสดงอาการความเสียหายแล้วเพิ่งมาพ่นสารจะได้ผลในการป้องกันกำจัดน้อยมากๆ ดังนั้นหากพื้นที่ปลูกข้าวนั้นพบการระบาดเป็นประจำ หรือพื้นที่ข้างเคียงก่อนหน้านี้ถูกบั่วทำลายแล้ว ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชก่อนครับเมื่อข้าวอายุได้ประมาณ 20-30 วัน เพราะตัวเมียมักวางไข่ในช่วงนี้ครับ
ถูกชนิด = 1.ชนิดของศัตรูพืชชื่อวิทยาศาสตร์ Orseolia oryza เป็นศัตรูพืชที่สำคัญในข้าวชนิดหนึ่ง โดยแมลงศัตรูพืชชนิดนี้เป็นแมลงอันดับDiptera(กลุ่มแมลงวัน) ตัวเต็มวัยคล้ายยุงชอบบินเข้าหาแสงไฟ ระยะตัวอ่อนของบั่วเป็นหนอนแมลงวันที่ไม่มีขามีสีน้ำตาลปนเหลือง
2.ชนิดของสารเคมี ว่าสารไทอะมีโทแซม25%WG(กลุ่ม4) อัตรา 16 กรัมต่อไร่ และสารฟิโพรนิล0.3%GR(กลุ่ม2) อัตรา 4 กิโลกรัมต่อไร่ครับที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดครับ ส่วนสารในกลุ่ม 1 กับกลุ่ม 3 อาจจะต้องพิจารณาเรื่อง(pest resurgence) จะเห็นว่าข้างฉลากสารทั้ง 2 กลุ่มมักจะเขียนห้ามใช้ในนาข้าวครับ และในปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเป็นผู้ควบคุมการขึ้นทะเบียนสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ซึ่งใช้กับบั่วโดยตรง คือสารไทอะโคลพริด (thiacloprid) 24% SC ผลการทดลองพบว่าการใช้สารไทอะโคลพริด อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร นี้มีเปอร์เซ็นต์ต้นข้าวที่เป็นหลอดหอมน้อยกว่าและแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับกรรมวิธีไม่พ่นสาร รวมถึงเมื่อเก็บข้อมูลสุดท้ายพบว่าได้ผลผลิตข้าวมากกว่ากรรมวิธีไม่พ่นสารแตกต่างทางสถิติเช่นกันครับ
ถูกวิธี =หากพ่นสารด้วยโดรนหรือระบบน้ำน้อย ในข้าวอายุต่ำกว่า40วัน ให้ใช้สารไทอะโคลพริด (กลุ่ม 4) ในอัตรา40 มิลลิลิตรต่อไร่ หากข้าวอายุเกิน 40 วันให้ใช้สารนี้อัตรา 60 มิลลิลิตรต่อไร่
ปล.โดยส่วนตัวที่ตรวจแปลงเห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างแปลงใช้สารกับแปลงไม่ใช้สารทั้ง 2 แปลงครับ ขอออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้เป็นการเชียร์สารชนิดใดชนิดหนึ่งแต่คิดว่ามีประโยชน์กับพี่ๆชาวนาที่กำลังเจอปัญหาบั่วในปัจจุบันครับ นอกจากนี้ในงานวิจัยต่างประเทศที่มีการทดสอบประสิทธิภาพสารป้องกันกำจัดบั่วในข้าวนั้น
ต้นข้าวที่ถูกหนอนจะแทรกตัวเข้าที่กาบใบ แล้วกินอยู่ที่จุดกำเนิดของหน่อข้าว ขณะที่หนอนอาศัยกัดกินอยู่ภายในตาที่กำลังเจริญเติบโตต้นข้าวจะสร้างหลอด หุ้มตัวหนอนไว้ทำให้เกิดเป็นช่องกลวงที่เรียกว่า “หลอดบั่วหรือหลอดหอม” ทำให้ข้าวไม่จริญเติบโตและไม่ออกรวงในที่สุดครับ
#การป้องกันกำจัด
1 ในพื้นที่ที่มีการระบาดของบั่วเป็นประจำ ให้สังเกตความเสียหายของแปลงข้างเคียงหรือ ดูตัวเต็มวัยของบั่วที่บินมาเล่นแสงไฟที่ใกล้กับแปลงปลูกตอนกลางคืน
2 กำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงนาครับ เพื่อทำลายพืชอาศัยของบั่ว
3 ไม่ปลูกข้าวหนาแน่นเกินไปครับ ควรมีระยะห่างที่แสงส่องถึงโคนได้
4 เลี่ยงปลูกข้าวในช่วงเดือนที่มักพบการระบาดเป็นประจำ(อันนี้ยากหน่อย)
5 ใช้ปุ๋ยในอัตราที่เหมาะสม โดยเฉพาะปุ๋ยไนโตรเจนครับ