ความช่วยเหลือจากภาครัฐกรณีเกษตรกรประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร
1.เกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืชหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัยมีพื้นที่เสียหายจริงอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่
ข้าว 1,340 บาทต่อไร่พืชไร่ละพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่
ย้ำ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย
2.กรมปศุสัตว์ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นด้านปศุสัตว์ให้แก่เกษตรกรภาคใต้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ดังนี้ 1. แจกเสบียงพืชอาหารสัตว์ 2. อพยพสัตว์ 3. สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 4. รักษาสัตว์ 5. ถุงยังชีพสัตว์
เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนเสบียงอาหารสัตว์ได้ที่
1. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด
2. สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ
3. ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ในพื้นที่
4. กลุ่มโครงการพิเศษและป้องกันภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาปศุสัตว์ โทร. 0 2653 4444 ต่อ 3315
ส่วนความช่วยเหลือที่เป็นเงินเยียวยากรณีสัตว์เลี้ยงตายนั้น ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลัง พ.ศ.2564 ดังนี้
1. โค อายุน้อยกว่า 6 เดือน อัตราตัวละไม่เกิน 13,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1ปี อัตราตัวละไม่เกิน 22,000 บาท อายุ 1-2 ปี อัตราตัวละไม่เกิน 29,000 บาท อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 35,000 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 5 ตัว
2. กระบือ อายุน้อยกว่า 6 เดือน อัตราตัวละไม่เกิน 15,000 บาท อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี อัตราตัวละไม่เกิน 24,000 บาท อายุ 1-2 ปี อัตราตัวละไม่เกิน 32,000 บาท อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 39,000 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 5 ตัว
3. สุกร อายุ 1-30 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 1,500 บาท อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 3,000 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 10 ตัว
4. แพะ/แกะ อายุ 1-30 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 1,500 บาท อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 3,000 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 10 ตัว
5. ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 80 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 300 ตัว
6. ไก่ไข่ อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 100 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 1,000 ตัว
7. ไก่เนื้อ อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 20 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 50 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 1,000 ตัว
8. เป็ดไข่ อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 100 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 1,000 ตัว
9. เป็ดเนื้อ/เป็ดเทศ อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 80 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 1,000 ตัว
10. นกกระทา อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 10 บาท อายุ 21 วันขึ้นไป อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 1,000 ตัว
11. นกกระจอกเทศ อัตราตัวละไม่เกิน 2,000 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 10 ตัว
12. ห่าน อัตราตัวละไม่เกิน 100 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 300 ตัว
13. แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ อัตรา 1,980 บาท/ไร่ ช่วยเหลือไม่เกิน รายละ 30 ไร่
แต่ทั้งนี้เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียน ถ้าไม่ขึ้นอดรับเงินเยียวยา
3.ความช่วยเหลือจากภาครัฐกรณีเกษตรกรประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร กรณีของ "ประมง" มีอัตราการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
1. กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่
2. ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นนอกจากข้อ 1. ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าวหรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง) ไร่ละ 4,682 บาท รายละไม่เกิน 5 ไร่
3. สัตว์น้ำตามข้อ 1. และข้อ 2. ที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงในลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ตารางเมตรละ 368 บาท รายละไม่เกิน 80 ตารางเมตร
ทั้งนี้ หากคิดคำนวณพื้นที่เลี้ยงแล้ว ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติรายใดจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินต่ำกว่า 368 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 368 บาท
คุณสมบัติของเกษตรกร
เกษตรกรที่จะได้รับการช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนด้านประมงกับหน่วยงานของกรมประมง ก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วเท่านั้น