แจ้งเตือนเรื่อง “ เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล ”
3 ก.พ. 2563
101
52

แจ้งเตือนเรื่อง “ เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล ” วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563   

เตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ของประเทศไทยเฝ้าระวังการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล เนื่องจากช่วงสภาพอากาศเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนเหมาะต่อการ ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล และระยะข้าวอยู่ในช่วงแตกกอ ดังนั้นขอให้เกษตรกรเฝ้าระวังการระบาด และหมั่น ส้ารวจแปลงนาอย่างสม่้าเสมอ หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ส้านักงานเกษตรอ้าเภอใกล้บ้าน เพื่อด้าเนินการควบคุมและ ป้องกันก้าจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Nilaparvata lugens วงศ์ : Delphacidae อันดับ : Homoptera ชื่อสามัญอื่น : เพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยหลุม และเพลี้ย รูปร่างลักษณะ เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลเป็นแมลงปากดูด ตัวเต็มวัยมีขนาดยาวประมาณ ๓ มิลลิเมตร กว้าง  ๑ มิลลิเมตรล้าตัวมีสีน้้าตาลจนถึงสีน้้าตาลปนด้า มีรูปร่าง ๒ ลักษณะคือชนิดปีกยาว (macropterous form)และชนิด ปีกสั้น (brachyterous form) ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ตัวเต็มวัยมีชีวิตประมาณ ๒ สัปดาห์ตัวเมียชนิดปีกยาว สามารถวางไข่ได้ ๑๐๐ ฟองและตัวเมียชนิดปีกสั้นสามารถวางไข่ได้ ๓๐๐ ฟอง ในช่วงชีวิต ๒ สัปดาห์ โดยตัวเมียจะ วางไข่เป็นกลุ่มเรียงแถวที่เส้นกลางใบหรือกาบใบ กลุ่มละประมาณ ๘ - ๑๐ ฟองซึ่งมองเห็นเป็นรอยช้้าสีน้้าตาลตรง บริเวณที่วางไข่และไข่จะฟักเป็นตัวอ่อนภายใน ๗ - ๙ วัน ตัวอ่อนลอกคราบ ๕ ครั้ง ภายในระยะเวลา ๑๑ - ๑๗ วัน เพื่อเป็นตัวเต็มวัยโดยทั่วไปแล้วตัวเมียมีอายุเฉลี่ยประมาณ ๑๕ วัน ส่วนตัวผู้มีอายุเฉลี่ยประมาณ ๑๓ วัน ตัวเต็มวัยชนิด ปีกสั้นบินไม่ได้จะอาศัยอยู่ในแปลงนาดูดกินน้้าเลี้ยงจากต้นข้าวและขยายพันธุ์ส่วนพวกปีกยาวสามารถบินอพยพ ไปยังแปลงนาอื่นได้ ลักษณะการท้าลาย เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลเป็นแมลงปากดูด ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยอาศัยดูดกินน้้าเลี้ยงจากกาบใบข้าว บริเวณโคนต้นเหนือระดับน้้าเล็กน้อย หรือที่เส้นกลางใบหลังใบข้าวโดยใช้ปากแทงดูดกินน้้าเลี้ยงจากท่อน้้าและ ท่ออาหาร ท้าให้ต้นข้าวแสดงอาการใบเหลืองเติบโตช้า ถ้าเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลระบาดรุนแรงต้นข้าวจะแสดงอาการ ไหม้แห้งคล้ายถูกน้้าร้อนลวก เรียกว่า ฮอพเพอร์เบิร์น “hopper burn” ท้าให้ข้าวแห้งตาย เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล สามารถท้าลายข้าวได้ทุกระยะ สามารถพัฒนาและปรับตัวให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมและอาหาร เช่น เมื่อมีอาหารมาก จะพัฒนาตัวเองเป็นชนิดปีกสั้นและขยายพันธุ์ได้มากแต่เมื่ออาหารมีน้อยจะพัฒนาตัวเองเป็นชนิดปีกยาวเพื่ออพยพไปยัง แหล่งอาหารอื่น  

 ๒ กรมส่งเสริมการเกษตร แนะน้าวิธีการป้องกันก้าจัด ดังนี้ ๑. ในฤดูปลูกถัดไปควรปลูกข้าวพันธุ์ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล เช่น กข ๖ กข ๓๑ กข ๔๑  กข ๔๗ สุพรรณบุรี ๒ สุพรรณบุรี ๓ สุพรรณบุรี ๙๐ พิษณุโลก ๒ เป็นต้น และไม่ควรปลูกพันธุ์เดียวติดต่อกันเกิน  ๔ ฤดูปลูก ควรปลูกสลับกันระหว่างพันธุ์ต้านทานสูงกับพันธุ์ทนทานหรือพันธุ์อ่อนแอปานกลาง โดยพิจารณา อายุเก็บเกี่ยวให้ใกล้เคียงกัน เพื่อลดความเสียหายเมื่อเกิดการระบาดรุนแรง  ๒. ส้ารวจแปลงอย่างสม่้าเสมอ เพื่อน้าองค์ประกอบต่าง ๆ ของระบบนิเวศในแปลงนาน้ามาวิเคราะห์ และตัดสินใจด้วยตนเองในการจัดการแปลงจากสถานการณ์จริง  ๓. ในแหล่งที่มีการระบาด และควบคุมระดับน้้าในนาได้ หลังปักด้าหรือหว่าน ๒-๓ สัปดาห์จนถึงระยะ ต้ังท้องควบคุมน้้าในแปลงนาให้พอดินเปียก หรือมีน้้าเรี่ยผิวดินนาน ๗-๑๐ วัน แล้วปล่อยขังทิ้งไว้ให้แห้งเองสลับกันไป จะช่วยลดการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล ๔. ใช้เชื้อราบิวเวอเรีย (เชื้อสด) อัตรา ๑ กิโลกรัม (๒ ถุง) ต่อน้้า ๒๐ ลิตร ควรพ่นในบริเวณที่พบ เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลและควรพ่นในเวลาเย็น สารเคมีที่แนะน้าให้ใช้ในการก้าจัดเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล  ๑. ข้าวระยะกล้าถึงแตกกอ (อายุ ๓๐-๔๕ วัน)  - บูโพรเฟซิน ๒๕ % WP ๑๐ กรัมต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - บูโพรเฟซิน ๑๐ % WP ๒๕ กรัมต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - บูโพรเฟซิน ๕ % WP + ไอโซโปรคาร์บ ๒๐ % WP ๕๐ กรัมต่อน้้า ๒๐ ลิตร ๒. ข้าวระยะแตกกอเต็มที่  - อีโทเฟนพร็อกซ์ ๑๐ % EC ๒๐ ซีซีต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - อีโทเฟนพร็อกซ์ ๕ % EC ๔๐ ซีซีต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - คาร์โบซัลเฟน ๒๐ % EC ๑๑๐ ซีซีต่อน้้า ๒๐ ลิตร - ฟีโนบูคาร์บ ๕๐ % EC ๖๐ ซีซีต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - ไฮโซโปรคาร์บ ๕๐ % WP ๖๐ กรัมต่อน้้า ๒๐ ลิตร  ๓. ข้าวระยะตั้งท้องถึงออกรวง  - ไดโนทีฟูแรน ๑๐ % WP ๑๕ กรัมต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - ไทอะมิโทแซม ๒๕ % WG ๒ กรัมต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - โคลไทอะนิดิน ๑๖ % ๖-๙ กรัมต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - อิมิดาโคลพริด ๑๐ % SL ๑๕ ซีซีต่อน้้า ๒๐ ลิตร  - อีทีโพรล ๑๐ % SC ๕๐ ซีซีต่อน้้า ๒๐ ลิตร สารเคมีที่ไม่แนะน้าให้ใช้ในนาข้าว  สารเคมีบางชนิดที่ไม่แนะน้าให้ใช้ในนาข้าวเนื่องจากจะท้าให้เพลี้ยกระโดดสีน้้าตาลระบาดเพิ่มขึ้นเป็น สารกลุ่มไพรีทรอยด์สังเคราะห์ได้แก่  ๑. แอลฟาไซเพอร์เมทริน ๑๐ % EC ชนิดพ่นน้้า  ๒. ไซแฮโลทริน แอล ๕ % EC ชนิดพ่นน้้า  ๓. ไซเพอร์เมทริน ๑๕ % EC ๒๕ % EC ชนิดพ่นน้้า 

 

 

 

 

 

 

 

ตกลง