ปลายี่สกไทย ถูกจัดอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ ตามบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์ (CITES)
กรมประมงจึงจัดตั้งคณะทำงานชุดเฉพาะกิจในการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยจากแม่น้ำโขงเพื่อการอนุรักษ์พันธุ์ปลาตามโครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาไทยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยโดยใช้แม่พันธุ์จากธรรมชาติ เพิ่มปริมาณและความหลากหลายของปลายี่สกไทยในแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา
โดยในปี 2567 มีการตั้งแคมป์เพาะพันธุ์ปลา 2 แหล่ง คือ ริมน้ำแม่น้ำโขงบริเวณบ้านสองคอน ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร และริมแม่น้ำโขงบริเวณบ้านไคสี ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ และในเดือนพฤศจิกายน 2567 ชุดเฉพาะกิจเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง จังหวัดมุกดาหาร ได้รับพ่อแม่พันธุ์ปลายี่สกไทยจากชาวประมงในพื้นที่จำนวน 2 ชุด ชุดแรกเป็นปลาเพศผู้ 1 ตัว ขนาดน้ำหนัก 11 กก. ยาว 75 ซม. และปลาเพศเมีย 1 ตัว น้ำหนัก 28 กก. ยาว 90 ซม. ส่วนชุดที่ 2 เป็นเพศเมียทั้งหมดจำนวน 3 ตัว น้ำหนัก 12-13 กก. ความยาว 90-95 ซม.
ปลาชุดแรกดำเนินการเพาะพันธุ์โดยการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่และผสมเทียมกับน้ำเชื้อสด ในขณะที่ปลาชุดที่สองเป็นการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ผสมกับน้ำเชื้อแช่แข็ง พบว่า มีเพียงปลาชุดแรกเท่านั้นที่วางไข่ (240,000 ฟอง) และได้รับการปฏิสนธิจนสามารถฟักและพัฒนาเป็นลูกปลาวัยอ่อนได้
และในกระบวนการเพาะพันธุ์ปลายี่สกไทยในครั้งนี้ กรมประมงได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมของพ่อแม่พันธุ์และลูกพันธุ์ปลา เพื่อนำมาใช้วางแผนในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรปลายี่สกไทยในแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาต่อไป
คุณบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การดำเนินการเพาะขยายพันธุ์ปลาแม่น้ำในลักษณะเช่นนี้ จะเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์และฟื้นฟูพันธุ์ปลาแม่น้ำเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้ยังคงความหลากหลายของสายพันธุ์เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางด้านอาหาร รวมทั้งสร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ชาวประมงและประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำต่อไป
ทั้งนี้ ปลายี่สกไทย (Probarbus jullieni , Sauvage, 1880) เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่พบได้ในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสาขาบางสาย มีฤดูกาลผสมพันธุ์ช่วงปลายเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี จัดว่าเป็นปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในจำพวกปลาแม่น้ำ เนื่องจากเป็นปลาที่หายากและมีรสชาติดี
ที่มา : กรมประมง