ระยะการควบคุมวัชพืชของยาคุมหญ้าแต่ละชนิด
19 มิ.ย. 2566
174
0
ระยะการควบคุมวัชพืชของยาคุมหญ้าแต่ละชนิด
ระยะการควบคุมวัชพืชของยาคุมหญ้าแต่ละชนิด

บทเรียนที่14 ความคงทนของสารกำจัดวัชพืชในดิน

เคยสงสัยมั้ยว่า ระยะการควบคุมวัชพืชของยาคุมหญ้าแต่ละชนิด จึงสั้นยาวต่างกัน และเราจะสังเกตได้จากอะไร

  ประสิทธิภาพสารประเภทไช้ทางดิน (pre-emergence herbicides) แต่ละชนิด..มีระยะเวลาในการควบคุมวัชพืช

แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับค่า DT50 (Dissipation half life time in soil) หรือ ระยะครึ่งชีวิตในดิ DT50 หมายถึง ระยะเวลา

ที่ความเข้มข้นของสารกำจัดวัชพืช จะลดลงเหลือ 50% ของปริมาณเริ่มต้นที่ใส่ลงในดิน ยกตัวอย่าง อะลาคลอร์มีค่า

ครึ่งชีวิตในดิน นาน 15 วัน สมมติ เริ่มต้นด้วยการพ่นอะลาคลอร์ลงดินในอัตราแนะนำคือ 240 กรัมต่อไร่ หลังจากเวลา

ผ่านไป 15 วัน ปริมาณอะลาคลอร์ในดินจะลดลง 50% เหลือ 120 กรัม และ เมื่อเวลาผ่านไป 30 วัน ปริมาณอะลาคลอร์

ในดินจะลดลงอีก50% เหลือเพียง 60 กรัม ซึ่งปริมาณดังกล่าวจะไม่เพียงพอสำหรับกำจัดวัชพืช

  ดังนั้น ในสภาพความเป็นจริง เราจะสังเกตเห็นวัชพืชเริ่มงอกใหม่จากเมล็ด หลังจากพ่นอะลาคลอร์ไปแล้ว 30 วัน

  - สารใดที่สามารถคงทนอยู่ในดินได้นาน..สารนั้นก็มีฤทธิ์ควบคุมวัชพืชได้นานเช่นกัน

  - ความคงทนในดิน แบ่งเป็น 3 ระดับ (ตามภาพประกอบ) คือ

  - ต่ำ < 30 วัน

  - ปานกลาง 30-100 วัน

  - สูง >100 วัน

 

  ค่าที่แสดงในตารางเป็นค่าเฉลี่ยจากการทดลอง (อย่างน้อย 5 การทดลอง) ในสภาพห้องปฎิบัติการที่ควบคุม

อุณหภูมิไว้ที่ 20 องศาเซลเซียส และความชื้นดิน 40-50% โดยใช้ดินที่มีคุณสมบัติต่างกัน ดังนั้น ค่า DT50 จึงไม่ใช่ค่า

ตายตัวสำหรัยการใข้งานจริงในสภาพไร่นาแต่ละแห่ง เพราะความคงทนในดินมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าความเป็น

กรดหรือด่าง (pH) ของดิน อุณหภูมิดินขณะพ่นสาร ความชื้นในดิน ชนิดดิน (ร่วน เหนียว หรือทราย) อินทรีย์วัตถุในดิน

ปริมาณน้ำฝน ความสามารถในการละลายน้ำของสาร และปริมาณจุลินทรีย์ในดินที่สามารถย่อยสลายสารนั้นๆ

  ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ค่า DT50 ในแต่ละแห่งอาจต่ำหรือสูงกว่าค่าที่แสดงไว้ในตารางได้ เช่น สารในกลุ่มไตรอะซีน

เช่น อะทราซีน จะคงทนในดินได้นานขึ้นในสภาพดินด่าง ส่วนสารในกลุ่ม ซัลโฟนิลยูเรีย หรือ อิมิดาโซลิโนน เช่น

อิมาซาพิค อิมาซาเพอร์ สามารถคงทนในดินได้นานขึ้นในสภาพดินกรด เพราะ สารเหล่านั้นจะถูกดูดยึดโดยอนุภาคดิน

ได้มากขึ้น จุลินทรีย์ย่อยสลายได้ลดลง และการชะล้างในดินลดลง

  - การเลือกระดับความคงทนในดิน..ควรให้สอดคล้องกับระยะปลอดวัชพืชของพืชปลูกแต่ละชนิด เช่น ข้าว ข้าวโพด

ถั่วเขียว มีอายุเก็บเกี่ยว 90-120 วัน ต้องการระยะปลอดวัชพืชในระยะ 30 วันหลังปลูก ดังนั้น จึงสามารถเลือกใช้สารที่มี

ความคงทนต่ำ เพื่อการควบคุมวัชพืชในช่วงเดือนแรก ลดโอกาสตกค้างในผลผลิตและผลกระทบที่อาจมีต่อพืชที่จะ

ปลูกตามในฤดูต่อไป

  - ส่วนพืชที่อายุเก็บเกี่ยวนาน 10-12 เดือน เช่น อ้อย หรือ มันสำปะหลัง เกษตรกรควรเลือกสารที่มีความคงทน

ในดินปานกลาง-สูง แต่ต้องคำนึงถึงวิธีการใส่ปุ๋ย ไม่ให้กระทบกับผิวดินที่พ่นสารคลุมไว้ โดยปรับวิธีใส่ปุ๋ยเป็นแบบ

กรีดร่องหรือเจาะหลุมระหว่างต้น เพื่อลดการรบกวนผิวดิน

  - แต่หากเกษตรกรต้องการใสปุ๋ยแบบโรยแถวและไถกลบ หลังปลูกอัอยหรือมันสำปะหลังในช่วง 2 เดือนแรก

ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สารในกลุ่มที่มีความคงทนสูงตั้งแต่เริ่มปลูก

  - อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของสารกำจัดวัชพืชที่ใช้ทางดิน (ยาคุม) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะความคงทนในดินอย่างเดียว

ยังขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสารที่จะควบคุมวัชพืชนิดใดบ้าง เหมาะกับชนิดวัชพืชที่พบในแปลงนั้นๆหรือไม่ ความเป็นพิษ

ต่อพืชประธาน วิธีการพ่นและอัตราใช้สารเหมาะสมกับชนิดดินหรือไม่

  - การใข้ยาคุมอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ต้องติดตามในบทเรียนต่อไป ดูน้อยลง

ตกลง