เตือนเกษตรปลูกสับปะรดระวังเพลี้ยแป้ง
11 มิ.ย. 2568
2
0
เตือนเกษตรปลูกสับปะรดระวังเพลี้ยแป้ง
เตือนเกษตรปลูกสับปะรดระวังเพลี้ยแป้ง

เตือนเกษตรปลูกสับปะรดระวังเพลี้ยแป้ง
เพลี้ยแป้งซึ่งเป็นแมลงพาหะถ่ายทอดเชื้อไวรัสสู่ต้นสับปะรด ดังนั้น เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบการอาการของโรคเหี่ยว โดยพบเพลี้ยแป้งอาศัยอยู่บริเวณแปลง สับปะรดแสดงอาการเริ่มแรกปลายใบเริ่มแห้ง หรือพื้นที่ของใบจะเริ่มมีสีม่วงแดงจากปลายใบลามเข้าเนื้อใบขอบใบจะลู่ลงหรือม้วนเข้าหาด้านใต้ใบ ต่อมาใบจะมีลักษณะแห้งคล้ายอาการขาดน้ำขอบใบเปลี่ยนเป็นสีน้ าตาลม้วนลงมาเพิ่มมากขึ้น พื้นใบมีสีม่วงแดงตลอดทั้งใบ ใบจะแห้งเหี่ยวทั้งกอในที่สุด
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
๑. การจัดสภาพแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของมดและเพลี้ยแป้ง โดยเริ่มตั้งแต่ทำความสะอาดแปลง เก็บวัชพืชซากพืชออกจากแปลงหลังเก็บเกี่ยว
๒. การเตรียมดินให้ตัดต้นและปั่นตอเก่าสับปะรดทิ้งไว้๒ - ๓ เดือน พร้อมทั้งเก็บซากเหง้าต้นสับปะรดและซากวัชพืชออกมาทำลายนอกแปลงปลูก ก่อนปลูกต้องมีการไถและพรวนดินหลายๆ ครั้ง ตากดินอย่างน้อย ๒ สัปดาห์เพื่อลดปริมาณเพลี้ยแป้งและศัตรูชนิดอื่นที่อยู่ในดิน
๓. ใช้หน่อพันธุ์ที่สะอาดปราศจากเพลี้ยแป้ง
๔. แช่หน่อพันธุ์เพื่อกำจัดเพลี้ยแป้งที่ติดมากับหน่อพันธุ์และสามารถป้องกันการเข้าท าลายของเพลี้ยแป้งได้ประมาณ ๑ เดือน โดยการแช่หน่อพันธุ์สับปะรดก่อนปลูกด้วยสารเคมีกำจัดแมลงนานประมาณ ๕ – ๑๐ นาทีด้วยสารเคมีกำจัดแมลงชนิดใดชนิดหนึ่งดังต่อไปนี้
- ไทอะมีโทแซม ๒๕% ดับเบิ้ลยูจี(WG) อัตรา ๒ กรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
- ไดโนทีฟูแรน ๑๐% ดับเบิ้ลยูจี(WP) อัตรา ๒๐ กรัม ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
- อิมิดาโคลพริด ๑๐% เอสแอล (SL) อัตรา ๒๐ มิลลิลิตร ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
๕. เมื่อพบการระบาดของเพลี้ยแป้งหลังปลูกให้ใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดเฉพาะจุดที่พบเพลี้ยแป้ง และรัศมีโดยรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของเพลี้ยแป้ง โดยให้พ่นสารป้องกันกำจัดแมลงชนิดใดชนิดหนึ่ง
- ไทอะมีโทแซม ๒๕% ดับเบิ้ลยูจี(WG) อัตรา ๒ กรัม ต่อน้ า ๒๐ ลิตร
- ไดโนทีฟูแรน ๑๐% ดับเบิ้ลยูจี(WP) อัตรา ๒๐ กรัม ต่อน้ า ๒๐ ลิตร
- อิมิดาโคลพริด ๑๐% เอสแอล (SL) อัตรา ๒๐ มิลลิลิตร ต่อน้ า ๒๐ ลิตร
- อะเซททามิพริด ๒๐% เอสพี(SP) อัตรา ๑๐ กรัม ต่อน้ า ๒๐ ลิตร
โดยพ่นเป็นวงรัศมีรอบๆ บริเวณที่พบเพลี้ยแป้ง แต่ต้องหยุดพ่นในช่วงที่สับปะรดติดผลอ่อน เพื่อไม่ให้มีพิษตกค้าง

ตกลง