วันนี้ชากังราว ข่าวเกษตร ขอพาทุกท่า ไปชมแปลงต้นแบบการทำเกษตรทฤษฏีใหม่ ของนายนิยม มูลสัน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 บ้านดงเย็น ตำบลระหาน อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร ค่ะ นายนิยม มูลสัน เริ่มทำนาตั้งแต่ปี 2528 หลังจากเรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น ขณะนั้นอายุได้ 16 ปี และในปี พ.ศ.2532 ได้เดินทางไปรับจ้างทำงานโรงงานอุตสาหกรรม ในกรุงเทพมหานครฯ ต่อมาในปี 2541 ในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ ได้เดินทางกลับมาทำการเกษตรที่บ้าน โดยปลูกส้มเขียวหวานและทำนา การปลูกส้มเขียวหวาน จำนวน 9 ไร่ ให้ผลผลิตดีในช่างปีแรกๆ ต่อมาในช่วงปี 2547 ส้มเขียวหวานเกิดโรคกรีนนิ่ง ผลหลุด ราคาตกต่ำ พื้นที่เสียหายอย่างสิ้นเชิง จึงเปลี่ยนมาปลูกกล้วยน้ำว้า
ส่วนการทำนา ในช่วงแรกเริ่มทำนาในพื้นที่ 18 ไร่ และในปัจจุบันทำนาพื้นที่ 34 ไร่ เมื่อเริ่มทำนาจึงรู้ว่า ที่เกษตรกรขาดทุนจากการทำนานั้น เกิดจากมีต้นทุนการผลิตสูงและต้องใช้สารเคมีมากทำให้เกิดผลเสียกับผลผลิต และมีสารพิษตกค้างมีผลเสียต่อตัวชาวนาเอง ตลอดจนปัญหาที่เกิดกับสภาพแวดล้อม ตนจึงเริ่มต้นการทำนาโดยใช้ปุ๋ยและสารชีวภาพที่ได้จากการหมักใช้เอง และเริ่มทดลองการทำนาแบบสลายตอซัง เพื่อลดต้นทุนการผลิต ตอนแรกที่ทำ ได้ผลผลิตประมาณ 70 ถังต่อไร่ ต่อมาเริ่มแก้ปัญหาและพัฒนาผลผลิต โดยการปรับปรุงโครงสร้างของดิน และไม่เผาตอซังข้าวแต่จะใช้น้ำหมักจุลินทรีย์จากหน่อกล้วยเพื่อย่อยสลายฟางข้าว โดยการปล่อยไปกับน้ำที่เอาเข้านา ทำให้ลดต้นทุนการผลิต และลดปัญหาด้านแรงงาน ปัจจุบันสามารถได้ผลผลิต ประมาณ 90 ถัง ต่อ ไร่ โดยใช้ต้นทุนการผลิต ประมาณ 3,180 บาท ต่อ ไร่ และในช่วงที่ภาวะราคาข้าวตกต่ำกันก็หันมาทำเป็นข้าวปลูกแทน ซึ่งก็ขายได้ราคาดีกว่า
นายนิยม กล่าวว่า การทำการเกษตรทฤษฎีใหม่นั้น ทำไม่ยาก เพียงแต่ต้องใช้ใจทำ ต้องอดทนกับปัญหาเรื่องรายได้ แต่หากผ่านปัญหาอุปสรรค์ได้แล้ว ก็รับรองได้เลยว่า ทุกอย่างจะเพียงพอและพอดีกับครอบครัวมาก สุขภาพจะดีขึ้น อีกทั้งครอบครัวก็ยังได้อยู่พร้อมหน้าอีกด้วย