ระวัง โรคเน่าคอดิน (เชื้อรา Pythium spp.) ในพืชตระกูลกะหล่ำ (เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว กะหล่ำดอก บรอกโคลี ฯลฯ)
สภาพอากาศในช่วงนี้ฝนตก ความชื้นสูง เตือนผู้ปลูกพืชตระกูลกะหล่ำ (เช่น คะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว กะหล่ำดอก บรอกโคลี ฯลฯ) ในระยะ ทุกระยะการเจริญ รับมือโรคเน่าคอดิน (เชื้อรา Pythium spp.)
บริเวณโคนต้นที่ติดกับผิวดินมีลักษณะช้ำฉ่ำน้ำสีน้ำตาลเข้ม เมื่ออาการรุนแรงเนื้อเยื่อจะเกิดเป็นแผลเน่าลาม ทำให้ต้นกล้าเหี่ยวทั้งต้น หักล้ม และตายลงก่อนจะแตกใบจริง บางครั้งเชื้อราอาจเข้าทำลายเมล็ดก่อนงอกพ้นดิน ทำให้เมล็ดไม่งอกหรืองอกออกมาแต่ไม่มีใบเลี้ยง
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
๑. ไถกลับหน้าดิน ตากแดด เพื่อลดปริมาณเชื้อราในดินก่อนเพาะกล้า
๒. คลุกเมล็ดพันธุ์ด้วยสารเมทาแลกซิล ๓๕% ดีเอส อัตรา ๗ กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ ๑ กิโลกรัม ก่อนเพาะกล้า
๓. ควรเพาะเมล็ดในระดับที่ไม่ลึกมาก และไม่แน่นจนเกินไป เว้นระยะต้นให้แสงแดดสามารถส่องผ่านลงได้
๔. หมั่นกำจัดวัชพืชในแปลงเพาะ เพื่อลดความชื้นในแปลง
๕. แปลงเพาะกล้าควรมีการระบายน้ำที่ดี ไม่ให้มีน้ำท่วมขัง
๖. เมื่อพบต้นกล้าที่เป็นโรค ถอนต้นที่เป็นโรคนำไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที และราดดินบริเวณที่เป็นโรค และบริเวณใกล้เคียงด้วยสารโพรพาโมคาร์บไฮโดรคลอไรด์ ๗๒.๒% เอสแอล อัตรา ๑.๕-๓ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๕ ลิตร (๖-๑๒ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร) หรือ ไฮเมกซาโซล ๓๖% เอสแอล อัตรา ๒๒-๒๖ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร
ที่มา : สำนักควบคุบพืชและวัสดุการเกษตร