วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 

       นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี เข้าร่วมประชุมการกำกับติดตามการปฏิบัติงานในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กลุ่มภาคกลางตอนล่าง 2 (จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม) ณ ห้องประชุม 1 พระนครคีรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ในการนี้เกษตรและสหกรณ์ในเขตตรวจราชการที่ 4 เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting 

       โดยมีสาระที่สำคัญ ดังนี้ 

       1. ผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในระดับจังหวัด จากการลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 

       2. การเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ 

       3. ผลความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี 

       4. ผลความก้าวหน้าการดำเนินโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก 

       5. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันตก 

       6. ผลความก้าวหน้าการดำเนินการประมงยั่งยืนและการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว 

       7. ปัญหา/อุปสรรคสำคัญเฉพาะพื้นที่ของแต่ละจังหวัด/แนวทางการแก้ไขปัญหา โดยภาพรวม พบว่า ในเขตตรวจราชการที่ 4 กลุ่มภาคกลางตอนล่าง 2 มีจุดเด่น 2 ข้อ ที่ต้องพยายามรักษาและหาเทคนิคและวิธีต่าง ๆ มาเสริมความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้นต่อไป คือ 1. อาหารและการประมง ประเทศไทยสามารถเชื่อมโยงได้ในระดับครัวไทยสู่ครัวโลก โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบุรี ได้รับการประกาศจาก UNESCO ให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (Creative City of Gastronomy) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 2. แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น หัวหิน ชะอำ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและในโอกาสที่สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้มหาศาล ต้องเร่งหาโอกาสสร้างรายได้เข้าประเทศต่อไป จุดอ่อน 2 ข้อสำคัญที่ต้องปรับปรุง/แก้ไขเร่งด่วน คือ 1. แรงงานต่างด้าวที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก 2. การกัดเซาะชายฝั่งซึ่งมีมากใน 4 จังหวัด (จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม) แต่ไม่ค่อยพบปัญหาที่รุนแรงในภูมิภาคอื่น และมีการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขปัญหาการดังกล่าว

       ทั้งนี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ขอความอนุเคราะห์ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมบูรณาการผลักดันใน 2 เรื่อง ดังนี้ 

       1. การบริหารพื้นที่เหมาะสมด้านการเกษตร โดยใช้ Agri-Map 

       2. BCG Model ซึ่งนำร่องในสินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัดอย่างครบวงจร ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ