ถอดรหัส แม่แจ่มโมเดล นำร่องแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5
เปลี่ยนจากปลูกข้าวโพด มาเป็น อะโวคาโด กาแฟ ไผ่ พืชผักในโรงเรือน ลดการเผาในจังหวัดเชียงใหม่ในระยะยาวได้
การเผาไร่ข้าวโพดของเกษตรกรในพื้นที่สูงตามจังหวัดภาคเหนือ คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต่อมามีวาทกรรมเชิงลบต่อ 'ชาวเขา' และ 'ข้าวโพด' ว่าเป็นต้นตอสำคัญของปัญหาฝุ่นควันในประเทศไทยที่ยืดเยื้อมานานหลายปี สอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ทำให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่ภาคเหนือเลือกที่จะปลูกข้าวโพด เพราะขนส่งสะดวก มีตลาดรองรับ
.
ที่ อ.แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ จากความร่วมมือของ 7 กระทรวง 30 หน่วยงาน ตลอดหลายปีทำให้สามารถลดพื้นที่การทำไร่ข้าวโพดรวมถึงการเผาไร่ได้กว่า 48 หมู่บ้าน จากทั้งหมด 500 กว่าหมู่บ้าน โดยเริ่มต้นจากพื้นที่วิกฤตก่อน เช่น จุดที่มี Hotspot มาก , หมู่บ้านที่ประสบปัญหาผลิตข้าวโพดเฉลี่ยต่อไร่ได้น้อยลงทุกปี เพราะดินเสื่อมสภาพจากการปลูกซ้ำๆ และ กลุ่มชาวบ้านที่อยู่ในวงจรภาระหนี้สะสมจากการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง
.
ต่อมา ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการได้รับการแก้ปัญหาที่ดิน ที่อยู่อาศัย และอาชีพ จนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ หลายครอบครัวในพื้นที่จึงเริ่มเข้าใจ เพราะเห็นตัวอย่างครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ พากันมาร่วมโครงการเปลี่ยนพืชทำกิน ซึ่งกลายมาเป็นความหวังครั้งใหม่ของพวกเขา ประชาชนในพื้นที่สูงจึงมีความตื่นตัวและปรับตัวเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
.
เมื่อแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ แม่แจ่ม จึงเป็นต้นแบบที่ถูกนำไปใช้กับพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย ขยายไปในกว่า 1,000 หมูบ้าน ใน 10 จังหวัด กับแนวทางการฟื้นฟูป่า นำพืชทางเลือกไปสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ พื้นที่สีเขียวบนเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าเป็นการพัฒนาแบบองค์รวม แก้ไขได้ทั้งเรื่องความยั่งยืนทางรายได้ของชาวบ้านและปัญหาหมอกควัน-ไฟป่าไปพร้อมๆ กัน
สืบค้นและเรียบเรียง : สิทธิโชติ สุภาวรรณ์
ภาพ : สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง