สาระสำคัญของพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ. 2560
 

1. การจดแจ้ง ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร

ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรที่ใช้การประกอบธุรกิจ หรือใช้การทำเกษตรพันธสัญญา
ให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรจดแจ้งการประกอบธุรกิจ หรือการทำเกษตรพันธสัญญา
สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะให้ความเห็นแก่ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร และจัดทำบัญชีให้ประชาชนตรวจสอบได้
2. การทำสัญญาในระบบเกษตรพันธสัญญา

ให้ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายและรายงานสินค้าให้แก่เกษตรกรทราบล่วงหน้า และจัดการซื้อขายเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาทั้งสองฝ่าย
ผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรต้องส่งสำเนาเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าให้แก่เกษตรกรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เอกสารทำสัญญาให้มีความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่ทำสัญญา
(รายละเอียดในข้อ 2):

เอกสารทำสัญญาต้องเป็นไปตามที่ พ.ร.บ. กำหนด
ห้ามสัญญาที่ไม่มีรายละเอียดตามที่กำหนด เกษตรกรมีสิทธิเลิกการซื้อขายและเรียกร้องค่าเสียหายได้
ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงในข้อตกลงหรือข้อความในสัญญาโดยไม่ได้รับอนุญาต
ห้ามแย่งชิงผลประโยชน์หรือเรียกร้องสิ่งที่ไม่พึงได้จากเกษตรกร
กำหนดให้เกษตรกรต้องควบคุม ดูแลรักษาสภาพพื้นที่ที่ใช้ทำการเกษตรให้เหมาะสมและเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญา เพื่อให้การผลิตเป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่ดีและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
3. กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

กำหนดให้มีกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เพื่อแก้ไขปัญหาตามระบบเกษตรพันธสัญญา
ห้ามดำเนินการใด ๆ ที่ทำให้การดำเนินงานเสียหายแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
4. การเปรียบเทียบปรับ

กำหนดบทลงโทษทางอาญาสำหรับผู้ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้
เพื่อให้ระบบเกษตรพันธสัญญามีประสิทธิภาพ