“ฝนหลวง” พระมหากรุณาธิคุณแห่งสายฝน เพื่อความชุ่มชื้นของแผ่นดินไทย
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินงานภายใต้พระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ซึ่งได้พระราชทานแนวคิดในการทำฝนเทียมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 เมื่อครั้งพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ทอดพระเนตรเห็นความเดือดร้อนจากภัยแล้งและได้มีพระราชดำรัสว่า “ทำไมมีเมฆอย่างนี้ ทำไมจะดึงเมฆนี่ลงมาให้ได้”คำตรัสนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของ “โครงการฝนหลวง” ต่อมาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยพระองค์ได้ทรงศึกษาวิทยาการด้านอุตุนิยมวิทยาและการทำฝนเทียมจากต่างประเทศด้วยพระองค์เอง พร้อมทดลองจนประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512
ภารกิจฝนหลวงในปัจจุบัน กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีภารกิจหลักในการ สร้างและกระจายความชุ่มชื้นในบรรยากาศ เพิ่มปริมาณน้ำฝนในแหล่งต้นน้ำ รวมถึงบรรเทาภัยแล้งและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)กรมฝนหลวงฯ แบ่งศูนย์ปฏิบัติการออกเป็น 7 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เช่น พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และพื้นที่ปริมณฑล
การปฏิบัติการฝนหลวงในภาคกลาง ปี 2568
ในช่วงฤดูแล้งและช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูง กรมฝนหลวงฯ ได้เร่งดำเนินการบินปฏิบัติการในภาคกลางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและช่วยให้เกิดฝนตกในพื้นที่การเกษตร โดยมีแนวทางการดำเนินงานหลักดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อระบุพื้นที่ที่มีศักยภาพในการทำฝน
2. วางแผนเส้นทางบินปฏิบัติการ โดยใช้เครื่องบินขนาดกลางและเล็ก เช่น CASA และ Caravan บรรทุกสารเคมีเกลือแร่เพื่อกระตุ้นการก่อตัวของเมฆ
3. เน้นพื้นที่วิกฤติภัยแล้ง เช่น นครนายก ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดรอบอ่างเก็บน้ำหลัก เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับการเกษตร
4. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งสำนักงานเกษตรจังหวัด อุตุนิยมวิทยา และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองในเขตปริมณฑล
ผลการดำเนินงานในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม 2568 พบว่าหลายพื้นที่ในภาคกลางมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองชลประทานเพิ่มขึ้นและช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นในพื้นที่เขตเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ร่วมกันสานต่อพระราชปณิธานแห่งสายฝน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอเชิญชวนประชาชน เกษตรกร และหน่วยงานท้องถิ่นร่วมกันติดตามข้อมูลการปฏิบัติการฝนหลวง ผ่านช่องทาง
- อาสาสมัครฝนหลวงจังหวัดปทุมธานี จำนวน 49 ราย
- เว็บไซต์: www.royalrain.go.th
- เฟซบุ๊ก: กรมฝนหลวงและการบินเกษตร DRRAA
เพื่อร่วมกันสานต่อพระราชปณิธานแห่ง “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ให้สายฝนแห่งความชุ่มชื้นยังคงหลั่งไหลเพื่อความอยู่ดีมีสุขของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป