ฝนหลวง
21 ต.ค. 2568
131
0
ฝนหลวง
ฝนหลวง

“ฝนหลวง” พระมหากรุณาธิคุณแห่งสายฝน เพื่อความชุ่มชื้นของแผ่นดินไทย

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินงานภายใต้พระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ซึ่งได้พระราชทานแนวคิดในการทำฝนเทียมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 เมื่อครั้งพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ทอดพระเนตรเห็นความเดือดร้อนจากภัยแล้งและได้มีพระราชดำรัสว่า “ทำไมมีเมฆอย่างนี้ ทำไมจะดึงเมฆนี่ลงมาให้ได้”คำตรัสนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของ “โครงการฝนหลวง” ต่อมาได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยพระองค์ได้ทรงศึกษาวิทยาการด้านอุตุนิยมวิทยาและการทำฝนเทียมจากต่างประเทศด้วยพระองค์เอง พร้อมทดลองจนประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512

     ภารกิจฝนหลวงในปัจจุบัน กรมฝนหลวงและการบินเกษตรมีภารกิจหลักในการ สร้างและกระจายความชุ่มชื้นในบรรยากาศ เพิ่มปริมาณน้ำฝนในแหล่งต้นน้ำ รวมถึงบรรเทาภัยแล้งและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)กรมฝนหลวงฯ แบ่งศูนย์ปฏิบัติการออกเป็น 7 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เช่น พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และพื้นที่ปริมณฑล

     การปฏิบัติการฝนหลวงในภาคกลาง ปี 2568

ในช่วงฤดูแล้งและช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูง กรมฝนหลวงฯ ได้เร่งดำเนินการบินปฏิบัติการในภาคกลางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศและช่วยให้เกิดฝนตกในพื้นที่การเกษตร โดยมีแนวทางการดำเนินงานหลักดังนี้

1. ติดตามสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อระบุพื้นที่ที่มีศักยภาพในการทำฝน

2. วางแผนเส้นทางบินปฏิบัติการ โดยใช้เครื่องบินขนาดกลางและเล็ก เช่น CASA และ Caravan บรรทุกสารเคมีเกลือแร่เพื่อกระตุ้นการก่อตัวของเมฆ

3. เน้นพื้นที่วิกฤติภัยแล้ง เช่น นครนายก ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดรอบอ่างเก็บน้ำหลัก เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนสำหรับการเกษตร

4. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งสำนักงานเกษตรจังหวัด อุตุนิยมวิทยา และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองในเขตปริมณฑล

ผลการดำเนินงานในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม 2568 พบว่าหลายพื้นที่ในภาคกลางมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองชลประทานเพิ่มขึ้นและช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นในพื้นที่เขตเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     ร่วมกันสานต่อพระราชปณิธานแห่งสายฝน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอเชิญชวนประชาชน เกษตรกร และหน่วยงานท้องถิ่นร่วมกันติดตามข้อมูลการปฏิบัติการฝนหลวง ผ่านช่องทาง

  • อาสาสมัครฝนหลวงจังหวัดปทุมธานี จำนวน 49 ราย
  • เว็บไซต์: www.royalrain.go.th
  • เฟซบุ๊ก: กรมฝนหลวงและการบินเกษตร DRRAA
    เพื่อร่วมกันสานต่อพระราชปณิธานแห่ง “พระบิดาแห่งฝนหลวง” ให้สายฝนแห่งความชุ่มชื้นยังคงหลั่งไหลเพื่อความอยู่ดีมีสุขของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป
ตกลง