วันที่ 28 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น.ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดพิจิตร ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร โดยมีนางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายธนิต ภูมิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางสาวอุไรรัตน์ คำชื่นวงศ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร เกษตรกรและประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ เเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์และปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมมอบถุงยังชีพ จาก มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อการกุศลให้ประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเสบียงอาหารสัตว์ 200 ฟ่อน ถุงยังชีพด้านปศุสัตว์ 30 ราย ไข่ไก่โอเค 1,200 ฟอง เมล็ดพันธุ์ข้าวโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ให้เกษตรกรผู้ประสบภัย 953 ราย มอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร 400 ราย และข้าวสังข์หยดอีก 200 ชุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทั้งด้านความเป็นอยู่และการทำการเกษตร สร้างรอยยิ้มและความหวังแก่ชาวพิจิตร ที่ยังคงต่อสู้กับน้ำท่วม สำหรับสถานการณ์อุทกภัยปีนี้ จังหวัดพิจิตรประกาศพื้นที่ประสบภัยตั้งแต่ 22 กรกฎาคม–24 กันยายน 2568 ครอบคลุม 12 อำเภอ 74 ตำบล 447 หมู่บ้าน มีความเสียหายทางการเกษตรกว่า 30,397 ไร่ บ่อปลา 13 ไร่ และถนน 10 สาย ปัจจุบันฝั่งแม่น้ำยมใน 5 อำเภอ ได้แก่ วชิรบารมี สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และโพทะเล ยังคงมีน้ำท่วมขัง ขณะที่พื้นที่ฝั่งแม่น้ำน่านเริ่มคลี่คลายลงแล้ว
และเวลา 11.10 น. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำยม ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่มีความเสี่ยงทั้งน้ำหลากและภัยแล้ง พร้อมประกาศความสำเร็จ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่าแห อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 100% โครงการดังกล่าวเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2562 แล้วเสร็จในปี 2567 ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ดำเนินการโดยสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 และเตรียมส่งมอบให้โครงการชลประทานพิจิตรใช้ประโยชน์ต่อไป โดย ประตูระบายน้ำท่าแห สามารถเก็บกักน้ำได้ถึง 12.60 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างประโยชน์ต่อพื้นที่เกษตรกรรม 6 ตำบล ในอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และ 1 ตำบล ในอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร รวมกว่า 81,111 ไร่
จากนั้นช่วงบ่าย เวลา 14.30 น.ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านวังจิก ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำยมตอนล่าง ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้วกว่า 80% จากวงเงินก่อสร้าง 197.5 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 เมษายน 2569และคาดว่าจะเปิดใช้งานได้เต็มรูปแบบในปี 2570 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ประตูระบายน้ำดังกล่าวจะสามารถกักเก็บน้ำได้กว่า 40 ล้านลูกบาศก์ กระจายน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรกว่า 37,000 ไร่ ครอบคลุม 6 ตำบล 3 อำเภอของจังหวัดพิจิตร (ตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี, ตำบลรังนกและตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม, ตำบลวังจิก ตำบลไผ่รอบ ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง) โดยเฉพาะเกษตรกรในตำบลวังจิกที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางน้ำเพื่อการเพาะปลูกและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างยั่งยืน