Premium T-VER (T-VER มาตรฐานขั้นสูง)
วัตถุประสงค์
การนำเครดิตไปใช้ในภาคสมัครใจ เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ทั้งในและต่างประเทศ หรือเพื่อถ่ายโอนระหว่างประเทศ ตามแนวทางข้อตกลงที่ 6.2 ของข้อตกลงปารีส สำหรับชนิดของก๊าซเรือนกระจกที่รับรองในภาคการเกษตร ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)ไนตรัสออกไซด์ (N20) และมีเทน (CH4) โดยมีโครงการในภาคการเกษตร ดังนี้
การลด ดูดซับ และการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก จากภาคการเกษตร
1) กิจกรรมการจัดการพื้นที่การเกษตรที่ดี (Enhanced Good Practices in Agricultural Land) T-VER-P-METH-13-06
ลักษณะการดำเนินงาน
วิธีการประเมินสำหรับการจัดการพื้นที่เกษตรที่ดี ประกอบด้วยรายละเอียด การดำเนินการประมาณ การลดการปล่อย และการส่งเสริมการกักเก็บก๊าซเรือนกระจกที่เป็นผลจากการดำเนินกิจกรรมการจัดการพื้นที่เกษตรที่ดี โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการกักเก็บคาร์บอนในรูปคาร์บอนอินทรีย์ในดิน (Soil Organic Carbon: SOC) หรือลดการปล่อยสุทธิของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีเทน (CH4) และไนตรัสออกไซด์ (N2O) จากการดำเนินงานของเกษตรกร โดยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการมีส่วนสำคัญต่อความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโครงการดังนี้
1.1) การพัฒนาโครงการจะต้องดำเนินการอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่
• การดำเนินกิจกรรมการกักเก็บคาร์บอน เช่น การใส่วัสดุอินทรีย์
การปรับปรุงการจัดการ เศษวัสดุการเกษตร การลดการไถพรวนดิน ระบบวนเกษตร การปลูกพืชหมุนเวียน การปลูกพืชคลุมดิน เป็นต้น
• การลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น การใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ (เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก) เป็นต้น
• การปรับปรุงการจัดการน้ำหรือการให้น้ำ (irrigation) เช่น การลดระยะเวลาขังน้ำ การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง เป็นต้น
แนวปฏิบัติที่ดีอาจเป็นการดำเนินการตั้งแต่หนึ่งกิจกรรมขึ้นไป เป็นการหยุดหรือเลิกกิจกรรมบางประเภท รวมถึงการปรับปรุงหรือมีการปฏิบัติร่วมกับแนวปฏิบัติก่อนมีโครงการ ทั้งนี้ การปรับปรุงที่ดำเนินการ ต้องมีค่าเกินกว่า 5% ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง เช่น อัตราการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนที่ลดลงมากกว่า 5%
1.2) พื้นที่โครงการต้องไม่ปรับเปลี่ยนจากพื้นที่ที่เป็นระบบนิเวศตามธรรมชาติในระยะเวลา 10 ปีก่อน วันเริ่มต้นของโครงการ
1.3) กิจกรรมโครงการต้องไม่ท าให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงเกินกว่า
ร้อยละ 5 จากการประเมินโดย ผู้ทรงคุณวุฒิ และ/หรือข้อมูลจากเอกสาร
เผยแพร่ที่ดำเนินการในภูมิภาคเดียวกันหรือที่เทียบเคียงกันได้
2) กิจกรรมการจัดการพื้นที่ปลูกข้าวที่ดี (Enhanced Good Practices in
Paddy Rice Field) T-VER-P-METH-13-06
ลักษณะการดำเนินงาน
วิธีการประเมินสำหรับการจัดการพื้นที่ปลูกข้าวที่ดี ประกอบด้วยรายละเอียดการดำเนินการประมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นผลจากการดำเนินกิจกรรมการจัดการพื้นที่ปลูกข้าวที่ดี โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลดการปล่อยของก๊าซมีเทน (CH4) จากการจัดการน้ำ และ/หรือการลดการปล่อยสุทธิของก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการจัดการปุ๋ยที่เกิดจากการดำเนินงานของเกษตรกร โดยกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการมีส่วนสำคัญต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโครงการดังนี้
2.1)การพัฒนาโครงการจะต้องดำเนินการอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่
• การปรับปรุงการจัดการน้ำ เช่น การลดระยะเวลาขังน้ำ การปล่อยให้น้ำแห้งเป็นระยะ การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง การลดเวลาการขังน้ำก่อนฤดูปลูกข้าว
• การลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจน เช่น การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในอัตรา สูตร ความถี่และเวลาที่เหมาะสม (ลดปริมาณการใส่ลง) การใช้สารยับยั้งการเปลี่ยนรูปของปุ๋ยไนโตรเจน (สารยับยั้งไนตริฟิเคชัน และเอ็นไซม์ยูรีเอส)
2.2) กรณีดำเนินการจัดการน้ำในพื้นที่ปลูกข้าว เกษตรกรต้องมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่สามารถใช้บริหารจัดการน้ำได้
2.3) โครงการต้องมีการจัดฝึกอบรมและการสนับสนุนเชิงเทคนิคให้แก่เกษตรกรที่ดำเนินโครงการ โดยเฉพาะการเตรียมพื้นที่ การให้น้ำ การระบายน้ำ และการใช้ปุ๋ย พร้อมทั้งแสดงหลักฐานที่เป็นเอกสารของการดำเนินการ ทั้งนี้ ผู้พัฒนาโครงการต้องมีการดำเนินการที่มั่นใจได้ว่าเกษตรกรต้องมีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก และสามารถปฏิบัติตามแผนการดำเนินการติดตามผลที่ระบุไว้
2.4) กิจกรรมโครงการต้องไม่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงเกินกว่าร้อยละ 5 จากการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และ/หรือข้อมูลจากเอกสารเผยแพร่ที่ดำเนินการในภูมิภาคเดียวกันหรือที่เทียบเคียงกันได้ กรณีที่ผลผลิตทางการเกษตรลดลงมากกว่าร้อยละ 5 แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ผู้พัฒนาโครงการสามารถแสดงเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมที่สมเหตุสมผล เพื่อไม่พิจารณาการรั่วไหลจากผลผลิตทางการเกษตร ด้วยความผันแปรในประเทศเขตร้อนชื้น และข้อมูลความผันแปรของผลผลิตการเกษตรของไทย (อ้างอิง ข้อมูลการผลิตสินค้าการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร) มีความอ่อนไหวตามสภาพภูมิอากาศค่อนข้างมาก อาจทำให้การดำเนินโครงการมีผลกระทบต่อผลผลิตการเกษตรมากไปด้วย
ที่มา : องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และกองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์