สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA เปิดตัว 9 โครงการวิจัยนำร่องจาก 9 หน่วยงานชั้นนำภาครัฐและเอกชน เตรียมความพร้อมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยรับมือ European Union Deforestation-free Regulation (EUDR) กฎระเบียบใหม่ของ EU ที่จะบังคับใช้เ
28 ส.ค. 2568
27
0
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA เปิดตัว 9 โครงการวิจัยนำร่องจาก 9 หน่วยงานชั้นนำภาครัฐและเอกชน เตรียมความพร้อมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยรับมือ European Union Deforestation-free Regulation (EUDR) กฎระเบียบใหม่ของ EU ที่จะบังคับใช้เ

ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ข้อมูลจาก FAO และ UNEP ระบุว่าโลกสูญเสียป่าไม้ปีละกว่า 10 ล้านเฮกตาร์ ดังนั้นพื่อแก้ปัญหานี้สหภาพยุโรป (EU) จึงออกกฎระเบียบ EUDR เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 โดยกำหนดว่าสินค้าเกษตร 7 กลุ่ม ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน กาแฟ ถั่วเหลือง โกโก้ โค และไม้ ต้องพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า มีระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ถึงแหล่งผลิตที่ชัดเจน และผลิตอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศต้นทาง  ถึงแม้ประเทศไทยจะถูก EU จัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ แต่จากข้อมูลของสหประชาชาติ   พบว่าในปี 2567 ประเทศไทยส่งออกสินค้าเกษตรกลุ่มนี้ไป EU มูลค่ารวมกว่า 1.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.49 หมื่นล้านบาท การเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการ รักษาตลาด เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของไทยและเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ ARDA สนับสนุนทุนวิจัยให้ มกอช. จัดทำ National Policy Framework ให้คณะกรรมการ EUDR  ระดับชาติเห็นชอบ และใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ EUDR นอกจากนี้ ได้เสนอหัวข้อประเด็นมุ่งเป้าเรื่อง EUDR ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุน ววน. เพื่อเชื่อมโยงงานวิจัยสู่การใช้งานจริง เช่น ระบบ GIS และ Remote Sensing ตรวจสอบพิกัดแปลงเพาะปลูก ระบบ Traceability End-to-End ติดตามสินค้าแต่ละล็อตจากฟาร์มถึงปลายทาง แอปพลิเคชันสำหรับเกษตรกรรายย่อย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกสินค้าผ่านกฎระเบียบ EUDR ภายใต้กรอบเวลาที่กำหนดได้อย่างมั่นใจ โดยได้สนันสนุน  9 โครงการวิจัย ได้แก่

           1. โครงการ การออกแบบระบบเตรียมความพร้อมสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน – มหาวิทยาลัยรังสิตออกแบบและกำหนดคุณสมบัติของระบบ ให้มีความพร้อมสำหรับโซ่อุปทานสินค้าเกษตรไทย ที่ส่งออกไป EUDR

           2. โครงการ พัฒนาระบบนำเข้า–ส่งออกตามมาตรฐาน EUDR – สมาคมอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) สำหรับสินค้านำเข้าและส่งออก

           3.  โครงการจัดทำ Geolocation แพลตฟอร์มดิจิทัลของภาคเกษตรไทยกับการรับมือกฎระเบียบที่ปราศจากการ
ตัดไม้ทำลาย ป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) อย่างยั่งยืน โดย บริษัท จีไอเอส จำกัด พัฒนาระบบตรวจสอบแหล่งที่มาพื้นที่ปลูกสินค้าว่าปลอดจากการบุกรุกป่า ผ่านแพลตฟอร์ม Geolocation และฐานข้อมูลกลางอัจฉริยะ รองรับการตรวจสอบย้อนกลับและประเมินความเสี่ยงตามมาตรฐาน EUDR เสริมความโปร่งใสและความสามารถแข่งขันสินค้าเกษตรไทย

           4. โครงการ วิเคราะห์ตลาดสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยัง EU – บริษัท แอคเซส ยุโรป จำกัด สำรวจแนวโน้มตลาดและท่าทีคู่ค้าในอาเซียนและ EU เพื่อสนับสนุนการวางแผนกลยุทธ์การส่งออกผ่านข้อมูลภาคเอกชน ข้อเสนอเชิงนโยบาย และการสื่อสารเชิงรุกสู่ตลาดโลก

           5. โครงการ ศึกษาอุปสรรคทางกฎหมายในการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายใต้กฎระเบียบ EUDR  – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อรวบรวมข้อเสนอเชิงนโยบายของข้อกฎหมายและแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับ EUDR

           6. โครงการ เสริมศักยภาพผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานปาล์มน้ำมัน – กรมวิชาการเกษตร การสร้างการรับรู้ให้เกษตรกร รวมถึงแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้และสามารถบริหารจัดการสวนปาล์มได้ตามระเบียบ EUDR

           7. โครงการ การศึกษาระบบยืนยันความถูกต้องทางกฎหมายของไม้ไทยสำหรับส่งออก – จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นการศึกษาห่วงโซ่อุปทานของไม้ไทย เพื่อรองรับการส่งออกไม้ตามกฎระเบียบ EUDR

           8. โครงการ ทวนสอบข้อมูลเกษตรกรและพิกัดแปลงเกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดิน – สำนักงานปฏิรูปที่ดินปรับปรุงความถูกต้องของข้อมูลพิกัดและแปลงเกษตรกรเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและติดตามผลผลิตสินค้าเกษตร

           9. โครงการ การวิจัยและปรับปรุงข้อมูลผังแปลงเกษตรกรรมดิจิทัลให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ EUDR   – กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อปรับปรุงข้อมูลผังแปลงเกษตรกรรมให้ได้ตามมาตรฐานแผนที่สอดคล้องกับการตรวจสอบย้อนกลับ
ของกฎระเบียบ EUDR

           “โครงการทั้ง 9 สะท้อนถึงพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการเชื่อมโยงงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งไม่เพียงช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยพร้อมรับมือกับ EUDR แต่ยังสร้างความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และยกระดับสินค้าเกษตรไทยให้เป็นที่ยอมรับบนเวทีโลกอย่างมั่นคง” ดร.วิชาญฯ  กล่าวปิดท้าย

 

  

ที่มาของข้อมูล: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง