เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 2/2568 ห้องประชุมกระทรวงเกษตรฯ 134-135
มีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบกรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 – 2570 รวมถึงพิจารณา ตัวชี้วัดตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPIs) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตัวชี้วัดการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการระดับกรม โดยสรุปสาระสำคัญในการประชุม ดังนี้
1. ตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPIs) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 11 ตัวชี้วัด เป็นตัวชี้วัดที่ถ่ายทอดประเด็นการวัดผลมาจาก แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 นโยบายสำคัญของรัฐบาลและมติคณะรัฐมนตรี มีตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้วัดผลทุกหน่วยงาน และทุกหน่วยงานจะต้องร่วมดำเนินการ จำนวน 4 ตัวชี้วัด คือ 1) อัตราการขยายตัวของมูลค่าของสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น (เป้าหมายขั้นสูง ร้อยละ 12.62 ) 2) อัตราการขยายตัวของมูลค่าสินค้าเกษตรที่ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐาน การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (เป้าหมายขั้นสูง ร้อยละ 6.68) 3) อัตราการขยายตัวของมูลค่าสินค้าเกษตรปลอดภัย ที่เป็นสินค้าอินทรีย์ (เป้าหมายขั้นสูง ร้อยละ 12.26) และ 4) รายได้เงินสดสุทธิทางการเกษตรของเกษตรกรเฉลี่ยต่อครัวเรือน (เป้าหมายขั้นสูง 84,593.09 บาท/ครัวเรือน/ปี) มติที่ประชุม เห็นชอบเกณฑ์วัดผลตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPIs) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. ตัวชี้วัดการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ ระดับกรม มติที่ประชุม เห็นชอบรายละเอียดตัวชี้วัดการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ โดยมีข้อพิจารณาและข้อสังเกต 2 ตัวชี้วัด ดังนี้
2.1 ตัวชี้วัดที่สำนักงาน ก.พ.ร. ยังไม่เห็นชอบตามที่กรมเสนอ จำนวน 1 ตัวชี้วัด คือ “จำนวนหน่วยรับรอง/หน่วยตรวจด้านสินค้าเกษตรและอาหารที่ได้รับการรับรองระบบงานหรือการต่ออายุการรับรองระบบงาน” ดำเนินการโดย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ที่ประชุมเห็นชอบเกณฑ์วัดผล เป้าหมายขั้นต้น 3 ใบรับรอง เป้าหมายมาตรฐาน 5 ใบรับรอง และเป้าหมายขั้นสูง 7 ใบรับรอง โดยกำหนดเงื่อนไข เป้าหมายขั้นสูงต้องมีผู้สมัครใหม่ไม่น้อยกว่า 3 ราย หากไม่สามารถดำเนินการได้ หัก 10 คะแนน
2.2 ตัวชี้วัดที่กรมมีข้อสังเกต จำนวน 1 ตัวชี้วัด คือ ร้อยละของความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ดำเนินการโดย กรมประมง ที่ประชุมเห็นชอบเกณฑ์วัดผลตามที่กรมประมงเสนอ เป้าหมายขั้นต้น ร้อยละ 75 : 150 แหล่งน้ำ เป้าหมายมาตรฐาน ร้อยละ 80 : 160 แหล่งน้ำ และเป้าหมายขั้นสูง ร้อยละ 85: 170 แหล่งน้ำ โดยกรมประมงมีข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับงบประมาณตามที่กำหนดไว้ อาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการในรอบ 6 เดือน และค่าเป้าหมายในรอบ 12 เดือน ซึ่งผู้แทนสำนักงาน ก.พ.ร. ได้มีข้อเสนอแนะว่า กรมสามารถทบทวนและปรับแผนการดำเนินงาน (Action Plan) ในรอบ 6 เดือน ให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ และหากกรมไม่ได้รับการสนับสนุน00งบประมาณจากงบกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าเป้าหมายในรอบ 12 เดือน ขอให้กรมทำหนังสือแจ้งสำนักงาน ก.พ.ร. ได้ทันที โดยไม่ต้องรอตามรอบการขออุทธรณ์ตัวชี้วัด
2.3 ที่ประชุมได้ให้รับรองมติการประชุม โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุมจากการแจ้งเวียน เนื่องจากสำนักงาน ก.พ.ร. มีกรอบระยะเวลาที่จะต้องนำผลจากการประชุมในครั้งนี้เสนอต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) พิจารณา ต่อไป