"ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดสมุทรสงคราม"
28 เม.ย. 2563
75
0
"ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดสมุทรสงคราม"
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
"ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดสมุทรสงคราม"

"ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดสมุทรสงคราม"
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยลงเรือติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำด้านการเกษตรจาก อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ล่องเรือตามลำคลอง ผ่านคลองดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และมาขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเทียบเรือตลาดน้ำบางน้อย วัดเกาะแก้ว ตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยนายวริศธิ์นันย์ เสือทอง นายอำเภอบางคนที นางสาวกัณฐชา วิญญูวิริยวงศ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสมุทรสงคราม หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และตัวแทนเกษตรกร ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กล่าวต้อนรับท่านที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ พร้อมทั้งสรุปภาพรวมข้อมูลพื้นฐานด้านการเกษตรของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งพื้นที่เกินกึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำการประมง และทำสวนผลไม้ โดยจังหวัดสมุทรสงครามมีระบบนิเวศน์ 3 น้ำ คือ น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ทั้งยังมีลำคลองมากกว่า 300 คลอง ทำให้เอื้อประโยชน์ต่อการทำการเกษตรและการบริหารจัดการน้ำที่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ทั้งสามจังหวัดซึ่งมีลำคลองเชื่อมต่อกัน ให้สามารถใช้น้ำให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ในเบื้องต้นได้หารือกับกรมชลประทานจะจัดทำโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำอัจฉริยะ ที่สามารถกำหนดการเปิด-ปิดได้อย่างเหมาะสม เพื่อจัดการน้ำในลำคลองที่เชื่อมต่อทั้งสามจังหวัดให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค และด้านการเกษตร รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมตัวแทนของทั้งสามจังหวัด โดยมอบหมายให้กรมชลประทานเป็นเจ้าภาพในการบูรณาการทำงานและออกแบบประตูระบายน้ำระบบอัจฉริยะ ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วจะทำให้มีน้ำเพียงพอแก่ภาคการเกษตร และเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคในฤดูแล้งตลอดไป เกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ยังมอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้การสนับสนุนตามมาตราการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ “COVID-19” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบอนุมัติจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบฯ เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเกษตรกรทั่วประเทศ 10 ล้านคน

ตกลง