เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2568
13 พ.ย. 2568
7
0
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2568

เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันสวรรคตครบ 100 ปี 25 พฤศจิกายน 2568 พระผู้ทรงมองการณ์ไกล วางรากฐานสยามสู่ความเป็นอารยะ

            พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ภายหลังการสวรรคตของรัชกาลที่ ๕ ท่ามกลางกระแสจักรวรรดินิยมที่กดดันประเทศเล็ก ๆ อย่างสยาม พระองค์ทรงตระหนักดีว่าสยามต้องยืนหยัดในเวทีโลกอย่างสง่างาม จึงทรงจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้สมพระเกียรติ ไม่เพียงเพื่อเป็นไปตามโบราณราชประเพณี หากยังเป็นการประกาศศักดิ์ศรีของชาติ ว่า “สยาม คือ ประเทศอารยะ” ซึ่งมีวัฒนธรรม และความรุ่งเรืองสั่งสมมาช้านาน
            พระองค์ทรงมองการณ์ไกลว่า พิธีราชาภิเษกสมโภชจะสามารถเป็นการประกาศบทบาทเวทีทางการทูต จึงเชิญพระราชวงศ์และราชทูตจาก ๑๔ ประเทศมหาอำนาจ มาร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชใน พ.ศ. ๒๔๕๔ นับเป็น “ครั้งแรกของเอเชีย” ที่โลกตะวันตกได้หันมามองสยามอย่างเคารพ และเสมอภาคด้วยพระราชปณิธานที่แน่วแน่ พระองค์ทรงเชื่อมั่นในหลักการ "เสียงประชา คือเสียงเทวดา" ดังที่ปรากฏในพระราชบันทึกเรื่องรัฐธรรมนูญที่ทรงพยากรณ์อนาคตไว้ได้อย่างแม่นยำ และด้วยพระราชดำริว่า พระราชาธิบดี ก็มีหน้าที่ที่จะทรงยังความยินดีให้บังเกิดในหมู่ประชาชน ให้สมกับความหมายของคำว่า พระราชา
“จากกุศโลบายแห่งการประกาศให้ชาวโลกได้ตระหนักถึงอารยะธรรมของสยามผ่านพระราชพิธี และการต้อนรับราชอาคันตุกะเมื่อกว่าร้อยปีก่อน สู่การราชอาณาจักรไทยที่มั่นคง และสง่างามท่ามกลางเวทีสากลในวันนี้ คือผลจากพระราชวิสัยทัศน์ของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมองการณ์ไกลที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย”

กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตกลง