มะละกอแขกนวลดำเนิน เป็นมะละกอที่ตลาดมีความต้องการสูง เนื่องด้วยเป็นมะละกอที่มีเนื้อสีขาว กรอบ เหมาะกับการนำไปตำส้มตำมากกว่าทุกสายพันธุ์ จึงเป็นมะละกอสายพันธุ์กินดิบที่เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกเพื่อสร้างรายไดคุณธงชัย ศิริโภคารัตนา หรือ คุณแบงค์ อยู่บ้านเลขที่ 172/1 หมู่ที่ 8 บ้านเกาะ ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้ามาสานต่องานเกษตรของครอบครัว คุณแบงค์ เล่าว่า ตนเองเป็นลูกหลานเกษตรกรอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ทำสวนมะละกอมาก่อน แต่เลิกทำไปเพราะตนเองและพี่ชายให้เลิกทำ เพราะอยากให้พ่อกับแม่ได้พักแล้วตนเองจะมาสานต่อ โดยขอวิชาความรู้การปลูกมะละกอจากพ่อ คือ คุณนพพันธ์ ศิริโภคารัตนา หรือในวงการมะละกอรู้จักกันในชื่อ เฮียไล้ เซียนมะละกอ เนื่องจากสมัยก่อนพ่อเป็นผู้คิดค้นวิธีการตอนมะละกอส่งเข้าประกวดจนได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นประจำจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีใครที่คิดวิธีการตอนแบบพ่อได้ พ่อเป็นคนแรกๆ ที่เริ่มทำเริ่มมีชื่อเสียงก็มีหนังสือมาขอสัมภาษณ์จึงกลายเป็นที่รู้จักและพูดต่อๆ กันไปว่าพ่อผมเป็นเซียนมะละกอ
พลิกที่ดิน 40 ไร่ ปลูกมะละกอเป็นอาชีพสร้างตัว
โชคดีมีพ่อเป็นที่ปรึกษา
คุณแบงค์ บอกว่า ผมโชคดีที่มีพ่อเป็นเซียนปลูกมะละกอ ถือว่าได้เปรียบกว่าเกษตรกรมือใหม่หลายๆ ท่าน แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องใช้ความพยายาม ความขยัน ความอดทนของตัวเราเองด้วย
“ทักษะการปลูกมะละกอของผมเริ่มต้นจากศูนย์ ผมเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ไม่มีความรู้เรื่องการทำเกษตรเลย จะมีแค่ตอนเด็กได้ช่วยพ่อทำสวนมะละกออยู่บ้าง ทำงานตามที่พ่อสั่ง แต่ตอนนั้นยังไม่ได้มีความรู้ว่าพ่อให้ทำแบบนั้นเพราะอะไร แต่พอจะเริ่มเข้ามาทำสวนอย่างจริงจังจึงต้องเริ่มเรียนรู้ขอวิชาการปลูกมะละกอจากพ่ออีกครั้ง…ผมเริ่มปลูกมะละกอบนพื้นที่มรดกของพ่อ เดิมทีตรงนี้เป็นที่นามาก่อน แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ตรงนี้สวยอยู่ติดแหล่งน้ำ จึงคิดว่าจะปลูกมะละกอพันธุ์แขกนวลก่อนเพราะมีพ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาได้ น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีในสายงานเกษตรของผม” คุณแบงค์ เล่า
คุณแบงค์ บอกต่อว่า ที่ดินทั้งหมดมี 47 ไร่ ถ้าคิดเฉพาะดินไม่รวมร่องน้ำจะมีพื้นที่ปลูกจริงๆ ประมาณเกือบ 30 ไร่ ปลูกเป็นอาชีพได้ 2 ปีกว่า ใช้วิธีปลูกไปด้วยเรียนรู้ไปด้วย ซึ่งพันธุ์ที่เลือกปลูกเป็นมะละกอพันธุ์แขกนวลดำเนิน เป็นเมล็ดพันธุ์เก่าที่พ่อเก็บไว้ ตอนนี้ต้นมะละกอเริ่มโทรม ใบเริ่มหงิก แต่ยังให้ผลผลิตดกอยู่ กำลังแซมรุ่นใหม่ไม่ให้ขาดคอ การที่จะทำให้มะละกอมีผลผลิตดก ไม่ควรปล่อยต้นนานเกิน 2 ปี ระยะ 2 ปี มะละกอยังเป็นมะละกอสาวให้ผลผลิตดก แต่ถ้าหลังจากนี้ไปแล้วต้นจะเริ่มโทรม ทางที่ดีคือไม่ควรปล่อยต้นไว้เกิน 2 ปี ครบ 2 ปีให้โค่นทิ้งแล้วปลูกแซมเลยจะดีกว่า
การปลูกมะละกอหัวใจสำคัญคือ ต้องคัดพันธุ์เอง แล้วคัดต้นที่มีลักษณะต้านทานโรคใบด่างวงแหวน…โรคนี้ถือเป็นอุปสรรคสำคัญของการปลูกมะละกอ ถ้าเลี่ยงไม่ให้เกิดได้ถือว่าปีนั้นประสบผลสำเร็จ ทางรอดคือ 1. ต้องคัดพันธุ์เอง 2. หากคัดพันธุ์ปลูกเองแล้วแต่ไวรัสยังหลงอยู่ อาจมีตัวแปรอื่น จากประสบการณ์ที่ปลูกมา 2 ปี คิดว่าพาหะเป็นตัวสำคัญถ้าควบคุมไม่ได้ก็โดนไวรัส พิสูจน์จากที่สวนข้างๆ เขาปลูกมะละกอเหมือนกันแต่เขาปลูกทิ้งขว้าง แล้วพอมะละกอเกิดโรคเราไม่สามารถไปบอกเขาให้โค่นต้นทิ้งได้ ตัวการนี้แหละคือพาหะมาหาสวนเราซึ่งเราควบคุมไม่ได้เลย
วิธีการปลูกและดูแล
การปลูกมะละกอ ปุ๋ยถือเป็นเรื่องสำคัญและขาดไม่ได้ การดูแลเมื่อของเก่าหมดรุ่นให้เริ่มดูแลใส่ปุ๋ยบำรุงต้นใหม่ช่วงแรกต้นอายุ 1-4 เดือน ใส่ปุ๋ยยูเรียก่อน 46-0-0 เร่งให้ต้นโต ต้นน้อยก็ใส่น้อยเป็นกำมือ เมื่อต้นอายุ 4-5 เดือน จะเริ่มใส่ 16-16-16 เพื่อให้สะสมอาหารและฉีดฮอร์โมนทางใบ และแคลเซียมโบรอนก็ขาดไม่ได้ ถ้าขาดแล้วลูกจะปูดบวม ผิวตะปุมตะป่ำ ปัจจัยที่ส่งผลให้ลูกปูดบวมนอกจากแคลเซียมโบรอนยังมีตัวของไวรัสวงแหวนอีกอย่างที่ส่งผลให้ลูกปูดบวมผิวไม่สวย
ปุ๋ย…ที่ใช้อาจจะต้องเลือกปุ๋ยยี่ห้อที่เข้ากับพืชได้ดี เพราะที่สวนเคยมีการทดลองใช้ปุ๋ย 2 ยี่ห้อ ยี่ห้อที่ 1 พืชดูดซึมปุ๋ยได้ดีต้นเจริญเติบโต ส่วนยี่ห้อที่ 2 เป็นสูตรเสมอเหมือนกันแต่พืชไม่กิน อันนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากถือว่าต้องใช้ประสบการณ์และการสังเกตของผู้ปลูกโดยเฉพาะ
น้ำ…มะละกอเป็นพืชใช้น้ำเยอะ จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน วันละ 1 รอบ ยิ่งถ้าวันไหนอากาศร้อนต้องให้ ที่สำคัญคือมะละกอต้องห้ามรดน้ำตอนกลางวันเพราะจะเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดน้ำในบ่อก็จะร้อน ถ้าเราใช้น้ำรดโดนดอก ดอกจะร่วงเยอะมาก แล้วผลจะไม่ติด เพราะฉะนั้น ระยะเวลาที่เหมาะสมในการรดน้ำคือช่วงตี 5-9 โมงเช้า อย่าให้เกินเที่ยง ปริมาณการรดน้ำดูตามความเหมาะสม ถ้าใส่ปุ๋ยไปเมื่อวาน รดน้ำแค่ 2 วันแรก วันที่ 3 ให้งด เพื่อให้ดินแห้ง เทคนิคของผมคือถ้าใส่ปุ๋ยแล้วรดน้ำซ้ำเยอะๆ ปุ๋ยจะไหลหนี