มะนาวบ้าใบ แก้ได้! ด้วยปุ๋ยมูลค้างคาว ช่วยให้ติดดอก ออกผลผลิตดีขึ้น
9 มิ.ย. 2568
48
0
มะนาวบ้าใบแก้ได้!ด้วยปุ๋ยมูลค้างคาว
มะนาวบ้าใบ แก้ได้! ด้วยปุ๋ยมูลค้างคาว ช่วยให้ติดดอก ออกผลผลิตดีขึ้น

มะนาวบ้าใบ แก้ได้! ด้วยปุ๋ยมูลค้างคาว ช่วยให้ติดดอก ออกผลผลิตดีขึ้น  06 มิถุนายน 2568  ญาณิศา อิ่มซะ

หนึ่งในปัญหายอดฮิตของเกษตรกรที่ปลูกมะนาว ก็คือ “มะนาวบ้าใบ” คือเจริญแต่ใบ เขียวทั้งต้น แต่ไม่มีดอก ไม่มีลูกให้เก็บขาย ทำให้เสียทั้งเวลาและต้นทุน แถมยังหมดกำลังใจ อาการแบบนี้บ่งบอกว่าต้นมะนาว ได้รับธาตุอาหารไม่สมดุล โดยเฉพาะ “ไนโตรเจน” มากเกินไป ทำให้เน้นแตกใบอ่อน ไม่ยอมเปลี่ยนเข้าสู่ระยะสืบพันธุ์ หรือออกดอกนั่นเอง

สาเหตุที่มะนาวไม่ออกดอก
ได้รับไนโตรเจนมากเกินไป
ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เช่น ยูเรีย หรือสูตรเร่งใบ จะทำให้มะนาวเจริญทางลำต้นและใบมากเกินไป ต้นมะนาวจึงไม่เข้าสู่ระยะออกดอก
ขาดแสงแดด
มะนาวเป็นพืชที่ต้องการแดดจัดอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง หากปลูกในที่ร่ม หรือร่มครึ้ม จะมีแต่ใบและไม่ออกดอก
ดินขาดธาตุอาหารที่เหมาะสม
โดยเฉพาะ ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม ซึ่งเป็นธาตุหลักในการช่วยให้พืชออกดอกและติดผล
การให้น้ำผิดวิธี
ให้น้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป โดยเฉพาะการให้น้ำสม่ำเสมอเกินไป จะไม่กระตุ้นให้พืชรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ระยะดอก
แนวทางการแก้ไข
1. หยุดให้ปุ๋ยเร่งใบ
เปลี่ยนจากปุ๋ยยูเรียหรือปุ๋ยสูตร 46-0-0 มาเป็นปุ๋ยสูตรเร่งดอก เช่น 8-24-24 หรือใช้ปุ๋ยอินทรีย์อย่าง มูลค้างคาว ที่มีฟอสฟอรัสสูง ช่วยเร่งการออกดอกแบบปลอดภัย

2. เทคนิคงดน้ำกระตุ้นดอก
งดให้น้ำ 5–7 วัน (ในช่วงที่อากาศแห้ง) จากนั้นให้น้ำแบบชุ่ม ๆ ต้นมะนาวจะรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงและกระตุ้นให้เกิดดอก

3. ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง
แสงแดดจะได้ส่องถึงภายในทรงพุ่ม และลดการแย่งอาหารระหว่างกิ่งที่ไม่จำเป็น จะช่วยให้ต้นสะสมอาหารเพียงพอสำหรับการออกดอก

4. ให้แสงแดดเพียงพอ
หากปลูกในกระถาง ให้ย้ายไปในจุดที่ได้รับแสงแดดจัด หากปลูกลงดิน ควรระวังอย่าให้มีร่มเงาจากต้นไม้อื่นมาบังตลอดวัน

5. ปรับสภาพดินให้ร่วนซุย
ใส่ปุ๋ยคอกเก่าหรืออินทรีย์วัตถุ เช่น แกลบดำ ปุ๋ยหมัก หรือกากมะพร้าว จะช่วยให้ดินเก็บน้ำและระบายอากาศได้ดี รากแข็งแรง ต้นก็จะแข็งแรงตาม

มะนาวเป็นพืชที่ตอบสนองต่อปุ๋ยคอกได้ดีมากๆ แต่การนำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์มาใส่ต้องเลือกปุ๋ยคอกที่แห้งสนิทหรือเป็นปุ๋ยคอกค้างปี ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง ดังนั้น ควรใส่ในระยะเริ่มการเจริญเติบโตของมะนาว คือ ช่วง 4 เดือน – 3 ปี และก่อนการออกดอก 1-2 เดือน

ปุ๋ยมูลค้างคาว ถือเป็นหนึ่งในของดีของสายเกษตร เพราะมีแร่ธาตุที่พืชต้องการสำหรับการออกดอกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น

ฟอสฟอรัส (P) ที่ช่วยกระตุ้นการออกดอก  โพแทสเซียม (K) ที่ช่วยให้ผลมีคุณภาพ  และยังมี แคลเซียม แมกนีเซียม และธาตุรองอื่นๆ ที่ช่วยปรับสมดุลให้ดินและต้นมะนาวแข็งแรง
ใช้อย่างไรให้ได้ผล?
1.ช่วงเตรียมต้นก่อนออกดอก (1-2 เดือนก่อนฤดูออกดอก)
ผสมมูลค้างคาวกับดินรอบโคนต้น หรือหมักเป็นน้ำหมักแล้วรดรอบทรงพุ่ม จะช่วยสะสมธาตุอาหารเพื่อให้ต้นพร้อมออกดอก
2.ลดการให้ปุ๋ยไนโตรเจนลง
หยุดให้ปุ๋ยยูเรียหรือปุ๋ยที่เน้นใบ และหันมาใช้ปุ๋ยมูลค้างคาว หรือปุ๋ยสูตร 8-24-24 แทน เพื่อเร่งดอก
3.เสริมด้วยการงดน้ำ 5-7 วันก่อนให้น้ำใหม่
เทคนิค “อดน้ำกระตุ้นดอก” เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยมูลค้างคาว จะยิ่งเห็นผลเร็ว ต้นมะนาวจะเริ่มออกดอกพร้อมๆ กัน
ข้อดีของมูลค้างคาวที่คนปลูกมะนาวชอบ
ปลอดภัย เป็นอินทรีย์ ไม่เผาราก
ช่วยบำรุงดินในระยะยาว
ทำให้ดอกออกแน่น ลูกดก เปลือกบาง น้ำเยอะ
ถ้าอยากให้มะนาวติดดอกออกผล ให้เพิ่มธาตุฟอสฟอรัสเพื่อช่วยให้มะนาวติดดอกออกผล โดยสามารถใช้ปุ๋ยมูลค้างคาวได้ เพราะมูลค้างคาวมีฟอสฟอรัสสูงถึง 14.28% เวลานำไปใช้ให้โรยปุ๋ยมูลค้างคาวรอบทรงพุ่มของต้นมะนาว จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม ต้นมะนาวจะสะสมอาหารและเริ่มออกดอกตามฤดู ต้นมะนาวที่มาจากกิ่งพันธุ์จะสามารถออกดอกได้เร็วกว่ามะนาวที่มาจากการเพาะเมล็ด

ถ้าต้นมะนาว “แตกแต่ใบ ไม่ยอมออกดอก” อย่าเพิ่งท้อ! ลองเปลี่ยนสูตรปุ๋ยจากไนโตรเจนสูง มาเป็น ปุ๋ยมูลค้างคาว ที่ช่วยเร่งดอกได้โดยธรรมชาติ ทั้งปลอดภัยและให้ผลผลิตดีขึ้นอย่างชัดเจน ใครที่อยากให้มะนาวออกลูกทั้งปีแบบมืออาชีพ ลองเริ่มจากการปรับดิน ปรับปุ๋ย แล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างแน่นอน

ที่มา  : เว็บไซต์เทคโนโลยีชาวบ้าน

ตกลง