5 สิ่งที่ผมได้เรียนรู้หลังทำเกษตรอินทรีย์

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาหลังจากเริ่มทำเกษตรอินทรีย์ ที่เน้นไปที่การทำเพื่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม ทำให้เรามีกำลังใจที่จะลงมือทำ ตอนที่เราเป็นผู้ให้ ในขณะเดียวกันเราก็มีความสุขกับการให้ของเรา เพราะให้เขาเราได้ เติมเขาเราเต็ม และทุกสิ่งที่เราคิดที่เราหวังสามารถเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ถ้าเราเอาจริงกับมัน

ชีวิตเรา เราลิขิตเอง

1. ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าใจเราคิดว่าทำได้
       มนุษย์จะเป็นไปได้ ในแบบที่ตัวเองคิดไปได้ถึงเท่านั้น กล้าฝัน คิดให้ใหญ่ การทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็จะเสาะหาวิถีทางที่จะทำ ถึงเราจะยังมองไม่เห็นจุดหมายสูงสุดที่เราหวังไว้ แต่หนทางก็จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาเองตามที่เราคิดไว้ มนุษย์เราตัวเล็กเกินกว่าที่จะมองเห็นแผนที่ในชีวิตของตนเองทั้งหมด และถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ มันก็จบตั้งแต่มีความคิดนั้นอยู่ในหัวของเราแล้ว การที่เรายืนอยู่จุดเดิมแล้วไม่พัฒนาตนเอง แล้วโลกหมุนไปข้างหน้า นั่นแปลว่าเรากำลังถอยหลัง อย่าใช้คำว่าทำไม่ได้ มาเป็นข้ออ้างในการไม่ทำ ส่วนการก้าวไปข้างหน้าก็เป็นไปได้ว่าเราจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้  แต่ถ้าเราอยู่จุดเดิมมันก็จะเป็นไปได้อย่างเดียวคือล้มเหลว จงอย่าคาดหวังสิ่งใหม่ ๆ กับการกระทำในแบบเดิม ๆ เร่งเดินหน้าหาประสบการณ์ เปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ จงทำลายกำแพงแห่งความกลัวนั้นซะ แล้วคุณจะได้พบกับแสงสว่างที่อยู่หลังกำแพงนั้น การใช้ชีวิตแบบนี้ มันส์กว่าเยอะเลยครับ ถ้าเราวางแผนในการที่จะก้าวเดินให้ดี จับจ้องไปยังเป้าหมายโดยไม่คลาดสายตา ความสำเร็จก็เป็นของเราเกินครึ่งแล้ว เหมือนสโลแกนที่ว่า ยิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์

2.ตั้งเป้าหมาย เรียนรู้ ฝึกฝน และลงมือทำ
       ไม่ว่าการทำอาชีพใด ๆ การตั้งเป้าหมายเปรียบเสมือนการที่มีเข็มทิศชีวิตถือไว้ในมือ มันจะเป็นตัวชี้ไปในสิ่งที่เราต้องทำหรือควรทำ ส่วนคนที่ไม่มีเป้าหมาย ทำตัวแบบอยู่วัน ๆ ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิต เหมือนรอให้ค่ำไปวัน ๆ เมื่อเราตั้งเป้าหมายเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว ก็ต้องศึกษาเรียนรู้ ฝึก ฝึก ฝึก ค้นคว้า แก้ไข เรียนรู้ ปรับปรุง  และฝึก ฝึก ฝึก ให้เป็นท็อปของสายอาชีพนั้น ๆ เพราะการลงมือทำ คือความสำเร็จของกฎทั้งปวง ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งความตั้งใจของมนุษย์ได้ เมื่อในวันที่เขามีเป้าหมายและลงมือทำ

3.รับผิดชอบชีวิตตัวเองที่ 100%
       เลิกโทษสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ไม่มีคนรัก ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ขาดความมั่นใจ ชีวิตไม่สมหวัง ทุกอย่างดูแย่ไปหมด ที่ชีวิตเราแย่ก็เป็นเพราะว่าเราปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นกับตัวเรา หรือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเราก็เพราะเราหาหนทางที่ให้สิ่งดี ๆ เหล่านั้นเกิดขึ้นมาในชีวิตเรา เปลี่ยนความคิดที่ชอบโทษนั่นโทษนี่ มารับผิดชอบชีวิตของเราเอง เอาความคิดแย่ ๆ ความคิดลบ ๆ ออกจากหัวของเรา มองหาสิ่งที่มี ไม่ใช่มองเห็นแต่สิ่งที่ขาด ขอบคุณกับสิ่งดี ๆ ที่เรามี มองทุกอย่างด้วยความคิดบวก แล้วเราจะเห็นแต่สิ่งดี ๆ วิ่งเข้ามาหาเรา ชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้จะดีหรือร้ายก็มาจากความคิดของเราเองทั้งนั้น ไม่ต้องไปตั้งเงื่อนไขที่จะมีความสุขให้มันยาก เพราะฉะนั้น จงมีความสุขกับปัจจุบัน มีความสุขกับสิ่งที่ทำ และมีความสุขเดี่ยวนี้ เวลานี้

4.เป้าหมายที่ทำเพื่อผู้อื่น ยิ่งใหญ่กว่าการทำเพื่อตัวเองเสมอ
       บ้างครั้งที่เราเฝ้าคิดถึงแต่ตัวเองมากเกินไป มันก็อาจจะพาให้หัวใจเราเหี่ยวแห้งได้ แต่การที่เราสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนได้ วันนั้นเราจะมีพลังที่อยากจะลุกขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น ผมเริ่มจากการศึกษาเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ โดยหาความรู้จากการอ่านหนังสือ การฟัง การดูสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เราทำ และส่งมอบความรู้นั้น ที่ผมได้กลั่นกรองเป็นบทสรุปของวิธีการทำเกษตรอินทรีย์ในแบบต่าง ๆ นำออกไปเผยแพร่ให้กับผู้ที่คิดอยากเริ่มต้นทำเกษตรอินทรีย์ นั่นเป็นเพราะผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำไป มันจะส่งผลไปถึงสุขภาพที่ดีของผู้คนทั้งหลาย และส่งผลดีต่อผืนแผ่นดินไทยที่จะกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ มองหาสิ่งที่คุณรักให้เจอ ลองดูนะครับ คุณค่าที่เราทำเพื่อผู้อื่นสุขใจกว่าเสมอ

5.ยืนหยัดในสิ่งที่ทำ
       หลายครั้งที่เราลงมือทำอะไรไปซักช่วงหนึ่ง เราอาจท้อแท้ เหน็ดเหนื่อยบ้าง แต่ขอให้ยืนหยัดในสิ่งที่เราทำ ถ้าเป้าหมายชัดเจนความสำเร็จมาแน่นอน บ้างครั้งความสำเร็จอาจอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว แต่เป็นเพราะว่าเราล้มเลิกเสียก่อน ถ้าสรุปสิ่งที่ผมเขียนออกมาได้เพียงข้อเดียวจากทั้งหมด ผมอยากจะบอกคุณว่า ห้าม ห้าม ห้าม ห้าม ห้ามล้มเลิกเด็ดขาด ผมเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ทุกคนในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ ไม่มีล้มเหลว มีแต่ล้มเลิก ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่กำลังทำตามความฝันทุก ๆ คน