”ขี้หมูกินหัว ขี้วัวกินใบ ขี้ไก่กินผล“
ปุ๋ยมูลสัตว์เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประโยชน์อย่างมากต่อการเกษตร เนื่องจากอุดมไปด้วยธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืช รวมถึงช่วยปรับปรุงบำรุงดินให้ดีขึ้นด้วย มูลสัตว์แต่ละชนิดมีสัดส่วนของธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน-N, ฟอสฟอรัส-P, โพแทสเซียม-K) ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เหมาะกับการใช้งานกับพืชแต่ละประเภท ดังนี้
1. ปุ๋ยมูลสัตว์สำหรับพืชหัว (เช่น มันสำปะหลัง, มันฝรั่ง, แครอท, ขิง, ข่า)
ชนิดของมูลสัตว์ที่เหมาะสม
มูลสุกร (ขี้หมู) มีธาตุโพแทสเซียม (K) สูง ซึ่งเป็นธาตุอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงหัว ราก และลำต้นใต้ดินของพืช ทำให้หัวใหญ่ แข็งแรง และมีคุณภาพดี
มูลค้างคาว มีฟอสฟอรัส (P) สูงมาก ช่วยในการสร้างและสะสมแป้งในหัวพืช
ประโยชน์สำหรับเกษตรกร
เร่งการลงหัวและสะสมแป้ง ทำให้พืชหัวมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีผลผลิตสูงขึ้น
เพิ่มความแข็งแรงของระบบราก ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
ปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของหัวพืชใต้ดิน
2. ปุ๋ยมูลสัตว์สำหรับพืชใบ (เช่น ผักใบเขียว, หอม, กระเทียม)
ชนิดของมูลสัตว์ที่เหมาะสม
มูลโค/มูลกระบือ (ขี้วัว/ขี้ควาย) มีไนโตรเจนสูง ซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของใบ ลำต้น และยอด ทำให้พืชมีใบเขียวเข้ม แข็งแรง และแตกยอดดี
มูลเป็ด มีปริมาณไนโตรเจนและฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ
ประโยชน์สำหรับเกษตรกร
ส่งเสริมการเจริญเติบโตทางใบ ทำให้ได้ผลผลิตที่เป็นใบมีปริมาณมากและมีคุณภาพดี
ใบเขียวสดใส ไนโตรเจนช่วยในการสร้างคลอโรฟิลล์ ทำให้ใบพืชมีสีเขียวเข้ม สังเคราะห์แสงได้ดี
เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในระยะยาว
3. ปุ๋ยมูลสัตว์สำหรับพืชดอก (เช่น ไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ, พืชที่ต้องการเร่งดอก)
ชนิดของมูลสัตว์ที่เหมาะสม
มูลไก่ (ขี้ไก่): มีฟอสฟอรัส (P) สูง ซึ่งเป็นธาตุอาหารสำคัญในการเร่งการออกดอก บำรุงดอก และการสร้างเมล็ด
มูลค้างคาว: มีฟอสฟอรัส (P) สูงมาก ทำให้เหมาะกับการกระตุ้นการออกดอกและการติดผล
ประโยชน์สำหรับเกษตรกร
เร่งการออกดอก ทำให้พืชออกดอกเร็วขึ้นและมีจำนวนดอกมากขึ้น
ดอกสวยงามและสมบูรณ์ ฟอสฟอรัสช่วยให้ดอกมีสีสันสดใส กลีบดอกแข็งแรง
เพิ่มคุณภาพของดอก ช่วยให้ดอกมีอายุการใช้งานนานขึ้น หรือเหมาะสำหรับการตัดดอก
ช่วยให้พืชสร้างเมล็ดได้ดี: สำหรับพืชที่ต้องการเก็บเมล็ดพันธุ์
ประโยชน์โดยรวมของปุ๋ยมูลสัตว์ต่อเกษตรกร
เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ปุ๋ยมูลสัตว์เป็นแหล่งอินทรียวัตถุชั้นดี ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดีขึ้น และเพิ่มความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุบวกของดิน
เป็นแหล่งธาตุอาหารพืช มีธาตุอาหารหลัก (N, P, K) และธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อพืชครบถ้วน โดยปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ ทำให้พืชได้รับสารอาหารต่อเนื่อง
ลดการใช้ปุ๋ยเคมี การใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ร่วมกับการจัดการดินที่ดีจะช่วยลดความจำเป็นในการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว
ส่งเสริมจุลินทรีย์ในดิน จุลินทรีย์ในดินจะช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุและปลดปล่อยธาตุอาหารให้พืชนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยควบคุมโรคพืชบางชนิด
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นปุ๋ยธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษสะสมในดินและน้ำ
เพิ่มผลผลิตและคุณภาพ พืชที่ได้รับธาตุอาหารครบถ้วนจากปุ๋ยมูลสัตว์มักจะเติบโตแข็งแรง ให้ผลผลิตสูง และมีคุณภาพดี
ข้อควรระวัง ควรใช้มูลสัตว์ที่ผ่านการหมักหรือตากแห้งแล้ว: มูลสัตว์สดอาจมีความร้อนสูงและมีเชื้อโรคหรือเมล็ดวัชพืชปะปนอยู่ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อพืชได้
ปริมาณการใช้ ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการสะสมของธาตุอาหารบางชนิดมากเกินไป หรือทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตได้
การเลือกใช้ปุ๋ยมูลสัตว์ให้เหมาะสมกับชนิดของพืชและความต้องการของพืชนั้นๆ จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีอย่างยั่งยืน