วันที่ 24-28 เมษายน 2566 นางสาวรัชนก แสงเพ็ญจันทร์ ที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) และรักษาราชการแทน อัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำ FAO ณ กรุงโรม พร้อมด้วยนางศุภจิต ศรีอริยวัฒน์ ที่ปรึกษา (ฝ่ายเกษตร) ทำหน้าที่ผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมสภามนตรี (FAO Council) ครั้งที่ 172 ณ สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กรุงโรม

ในการประชุมครั้งนี้ ผู้แทนไทยได้รับมอบหมาย ให้เป็นผู้แทนภูมิภาคเอเชียกล่าวถ้อยแถลงของภูมิภาคในวาระด้านงบประมาณและการเงิน (Financial Committee) ซึ่งได้เน้นย้ำในประเด็นการจัดการทรัพยากรบุคคลของ FAO โดยให้ FAO ตระหนักถึงความสำคัญของโครงการพัฒนาบุคลากร Young Professionals Programme (YPP) และ Junior Professional Officer (JPO) ตลอดจนการส่งเสริมให้ได้รับการพิจารณาบรรจุเป็นบุคลากรของ FAO ต่อไป และประเทศไทย รับมอบหมายเป็นผู้ยกร่างถ้อยแถลงของภูมิภาคในด้านแผนงานของ FAO ซึ่งเน้นย้ำการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์สำคัญขององค์กร เพื่อสนับสนุนเป้าหมายที่ดีกว่าเดิม (4 Betters) ได้แก่ ด้านการผลิตที่ดีกว่า (Better production) ด้านโภชนาการที่ดีกว่า (Better nutrition) ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า (Better environment) ด้านคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า (Better live)

สำหรับการประชุม CL172 นี้มีวาระที่สำคัญ ได้แก่ แผนกลยุทธ์ระยะกลาง 4 ปี ระหว่างปี 2565-2568 (Medium Term Plan 2022-2025) และแผนงานแผนงบประมาณประจำปี 2565-2566 (Programme of Work and Budget 2022-2023) ซึ่งถอดแผนมาจากกรอบยุทธศาสตร์ด้านเกษตรและอาหาร 10 ปี ของ FAO ประเด็นความมั่นคงทางอาหารโลกจากสงครามในยูเครน พร้อมเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสานต่อโครงการ Black Sea Grain Initiative เพื่อความมั่นคงอาหารโลก

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณารับรองรายงานผลการประชุมของคณะกรรมการด้านต่างๆ ของ FAO ได้แก่ การรับรองรายงานผลการประชุม ของคณะกรรมการวิชาการด้านเกษตร (COAG) ด้านประมง (COFI) และด้านป่าไม้ (COFO) รวมถึงการรับรองรายงานผลการประชุม ร่วมระหว่างคณะกรรมการด้านแผนงาน (Programme Committee) และด้านงบประมาณและการเงิน (Financial Committee) ด้านกฎหมาย (Committee on Constitutional and Legal Matters)

ทั้งนี้ ในการประชุม CL172 ได้มีการนำเสนอวิสัยทัศน์ของนายฉู ตงหยู (Mr. Qu Dongyu) ผู้อำนวยการใหญ่ FAO ซึ่งเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวในการเลือกตั้งสรรหาผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ในการประชุมสมัชชาใหญ่ระดับรัฐมนตรี FAO Conference ระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม นี้