ตลาดแมลงในอิตาลี
10 มี.ค. 2566
93
38
ตลาดแมลงในอิตาลี
ตลาดแมลงในอิตาลี

สหภาพยุโรป ยอมรับส่งสัญญาณให้แมลงเป็นหนึ่งในอาหารอนาคตใหม่ทดแทนเนื้อสัตว์ เนื่องจากมีโปรตีน วิตามินและกากใยสูง ใช้พื้นที่และทรัพยากรในการผลิตน้อยเทียบกับการทำปศุสัตว์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันสหภาพยุโรปยอมรับให้แมลงสามารถจำหน่ายได้ในตลาดยุโรปจำนวน 4 ชนิดได้แก่ 1) ตั๊กแตนโลคัสต้า (Locusta migratoria) 2) หนอนนก (Tenebrio molitor larva/Yellow mealworm 3) จิ้งหรีดทองแดงลาย (Acheta domesticus/House cricket) 4) ด้วงขี้ไก่ Alphitobius diaperionus (lesser mealworm) ในรูปแบบแช่แข็ง (frozen) ครีมเหลว (paste) แห้ง (dried) และผง (powder) โดยสหภาพยุโรปให้ความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคว่าอาหารที่มีส่วนผสมของแมลงต้องมีความปลอดภัยและติดฉลากอย่างถูกต้อง และต้องผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้มงวดจากหน่วยงานความปลอดภัยอาหารประจำสหภาพยุโรป (European Food Safety Authority : EFSA) และต้องระบุข้อความว่ามีส่วนผสมของแมลงและ “สินค้าดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อผู้บริโภคที่เคยมีอาการแพ้ครัชเตเชียน (สัตว์จำพวกกุ้ง กั้ง และปู) มอลลัส สินค้าจากครัชเตเชียน/มอลลัส และไรฝุ่น” บนฉลาก

     เป็นที่น่าจับตามองว่าแมลงอาจเป็นอาหารทางเลือกใหม่ที่สามารถพัฒนาไปสู่เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (SDG) ภายในปี พศ. 2573 เพื่อขจัดความหิวโหยทั่วโลกและเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2556 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO มีความพยายามผลักดันและสนับสนุนการเพาะพันธุ์และการบริโภคแมลงอย่างจริงจัง โดยมีโครงการ Horizon Europe ซึ่งเป็นโครงการให้ทุนสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งโปรตีนจากแมลงก็ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการวิจัย เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่และการขาดแคลนอาหาร อันเนื่องมาจากการเพิ่มของจำนวนประชากรโลกอย่างต่อเนื่องและต้นทุนการผลิตโปรตีนจากสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ในอนาคตแมลงจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของแหล่งโปรตีนใหม่

     ปัจจุบัน แมลงที่เป็นอาหารถือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มเล็กๆ ในสหภาพยุโรป เพิ่งได้รับการยอมรับให้วางจำหน่ายในตลาดยุโรปในปี 2561 บริษัทผู้ผลิตที่ได้รับอนุญาติให้วางจำหน่ายสินค้าในตลาดยุโรป ได้แก่ Fair Insects B.V. (เนเธอร์แลนด์) SAS EAP Group (ฝรั่งเศส) Cricket one co.ltd. (เวียดนาม) Ynsect NL B.V. (เนเธอร์แลนด์) ส่วนอิตาลี บริษัท Italian Cricket Farm เป็นบริษัทผู้ลงทุนและวิจัยฟาร์มชีวภาพจิ้งหรีดรายใหญ่ของอิตาลี มีผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปจากแมลง (Feed/Food Additives) สำหรับสัตว์เลี้ยง ปศุสัตว์ ประมง และกำลังเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับคน นอกจากนี้ ยังมีบริษัท Start up อื่นๆ ได้แก่ Alia Insect Farm (วิจัยและผลิตผงจิ้งหรีดที่ผลิตในอิตาลี 100% อย่างเดียว) Fucibo (ผลิตอาหารทานเล่น) Small Giant (บริษัทสัญชาติอังกฤษที่เพิ่งย้ายสาขามาเปิดในอิตาลี ผลิตอาหารโดยใช้ส่วนผสมของผงจิ้งหรีด) เป็นต้น ปัจจุบันมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบบออนไลน์เท่านั้น

     สำหรับอิตาลีพบว่า ตลาดแมลงในอิตาลียังคงเป็นของใหม่มาก แม้ว่าประโยชน์ของแหล่งโปรตีนใหม่จากแมลงจะมีมากมาย แต่อาจเร็วไปสำหรับผู้บริโภคอิตาลีที่มีความภูมิใจในวัฒนธรรมอาหารของตนเอง โดยเฉพาะคนรุ่นเก่า ประธานสมาพันธ์เกษตรกรอิตาลี (Coldiretti) กล่าวว่า การส่งเสริมการบริโภคแมลงอาจเร็วเกินไปสำหรับผู้บริโภคชาวยุโรป โดยเฉพาะชาวอิตาเลียนซึ่งเป็นชนชาติที่ไม่ค่อยจะยอมรับอาหารใหม่ๆ ที่ไม่ใช่วัฒนธรรมอาหารอิตาลี ชาวอิตาเลียนจึงไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยและด้านสุขภาพ โดยชาวอิตาเลียนเรียกร้องขอความชัดเจนในการชี้แจงวิธีการผลิต (Production method) แหล่งกำเนิด (Origin) และการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) เนื่องจากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มาจากประเทศนอกสหภาพยุโรป เช่น เวียดนาม ไทย และจีน ซึ่งติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่มีจำนวนสัญญาณเตือนความปลอดภัยด้านอาหาร (RASFF)

     จากการสำรวจของ Coldiretti พบว่าชาวอิตาเลียนยังมีความไม่มั่นใจในการบริโภคแมลงร้อยละ 54% ของคนอิตาลีต่อต้านแมลงในอาหาร ในขณะที่ 24% ไม่ได้ต่อต้านการบริโภคแมลง แต่ก็ไม่ได้ชื่นชอบ 16% ชื่นชอบการการบริโภคแมลงและ 6% ไม่แสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ผลิตอาหารขนาดใหญ่หลายรายอยู่ในระหว่างการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของแมลง แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตและกระจายอาหารออร์แกนิกที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี NaturaSì ประกาศต่อต้านอาหารที่มีส่วนประกอบของแมลง เพราะขัดกับนโยบายของบริษัทที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับวัฒนธรรมอาหารของอิตาลี

     ทั้งนี้ สมาพันธ์เกษตรกรอิตาลี (Confederazione Italiana Agricoltori : CIA) แสดงความเห็นว่า การเพิ่มส่วนผสมของแมลงเข้าไป ไม่ได้ทำให้อัตลักษณ์ของอาหารอิตาเลียนเปลี่ยนไปแต่อย่างใด นอกจากนี้ การบริโภคแมลงตามปกติมีอยู่ในหลายวัฒนธรรม แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงไม่คุ้นชินและไม่ไว้วางใจ เช่น การรับประทานหนอนในชีส casu frazigu บนเกาะซาดิเนีย สีผสมอาหารสีแดงทำมาจากแมลงปีกแข็ง (Cocciniglia extract : E120) หรือการทานราในชีส Gorgonzola ทั้งนี้ ประชาชนทุกคนมีอิสระในการเลือกตัดสินใจว่าจะบริโภคอะไร เพียงแต่ต้องรู้ว่ามีส่วนประกอบเหล่านี้อยู่ในอาหารหรือไม่ ดังนั้นการรับรองโดยสหภาพยุโรปในครั้งนี้จะช่วยสร้างมาตรฐานและความเชื่อมั่นให้กับผลิตภัณฑ์แมลงได้ในระดับหนึ่ง

     ประเทศไทยที่เป็นประเทศผู้ผลิตแมลงรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียมีศักยภาพในการเพาะเลี้ยงและการส่งออก ปัจจุบันกำลังยื่นขอขึ้นทะเบียนจิ้งหรีดไทย (Acheta domesticus) ซึ่งหากผ่านการพิจารณา นอกจากจะสามารถเข้าทำการตลาดยุโรปได้ 5 ปีในแล้ว ยังสามารถขยายตลาดได้อย่างกว้างขวางต่อไป นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังสามารถร่วมมือกับผู้ผลิตอิตาลีที่มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอ โดยสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้ประกอบไทยที่เชี่ยวชาญด้านแมลง ซึ่งน่าจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์แมลงของไทยเข้าสู่ตลาดอิตาลีได้ในปริมาณมากและต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ใช้สำหรับผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ที่ยังมีความต้องการสูง

ตกลง