ทำเกษตรผสมผสาน ปลูกข้าวเล็บนก ปลูกพืช 4 ชั้น ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
14 ต.ค. 2568
3
0
ทำเกษตรผสมผสาน ปลูกข้าวเล็บนก ปลูกพืช 4 ชั้น ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ข้าราชการวัยเกษียณ จ.นครศรีฯ ทำเกษตรผสมผสาน ปลูกข้าวเล็บนก ปลูกพืช 4 ชั้น ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีกินมีใช้  ชีวิตมั่นคงมีความสุข

ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ หมู่ที่ 5 ตำบลช้างซ้าย อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช มี นายช่วง สิงโหพล เป็นหัวหน้าศูนย์ หนึ่งในศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ จากจำนวน 221 แห่งทั่วประเทศ ที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( สำนักงาน กปร. ) ได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์การประเมินและกระบวนการตามหลัก Plan Do Check Act : PDCA จัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ในโครงการขยายเสริมเพิ่มเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ อีกหนึ่งกลยุทธ์ในการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้กระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงให้แก่เกษตรกรหลากหลายสาขา ได้แก่ ด้านเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรอินทรีย์ ประมง ปศุสัตว์ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และอื่นๆ เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าไปศึกษาหาความรู้ นำมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

สำหรับนายช่วง สิงโหพล ปัจจุบันมีอาชีพเป็นเกษตร เดิมเป็นข้าราชการบำนาญอยู่กับภรรยาพื้นที่ทำกินสภาพเดิม ดินเสื่อมโทรมต้องปรับปรุงก่อนปลูกพืช จึงสมัครเป็นหมอดินอาสาในโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช นำความรู้มาพลิกฟื้นสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้พื้นที่กลับมาใช้ประโยชน์ด้านการเพาะปลูกได้ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี หันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตเอง และปลูกหญ้าแฝกเพื่อรักษาหน้าดิน ริมขอบสระน้ำในพื้นที่ ทำนาปลูกข้าวพันธุ์เล็บนก ซึ่งเป็นข้าวไวต่อช่วงแสงในระบบนาดำตามภูมิปัญญาท้องถิ่น ข้าวอายุ 6 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว และเป็นข้าวที่นิยมบริโภคในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง (สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ระนอง พังงา ภูเก็ต และสงขลา) มีผลผลิตเฉลี่ย 476 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาโรงสีท้องถิ่นรับซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่าง 9,500-10,000 บาทต่อตัน โดยกลุ่มโรงสีในพื้นที่รับซื้อไม่จำกัดจำนวน และให้ราคาสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ ด้วยเป็นข้าวที่มีคุณภาพ เมื่อหุงเป็นข้าวสุกจะอ่อน นุ่ม เป็นที่นิยมของผู้บริโภคและตลาดภาคใต้

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาของข้อมูล: เทคโนโลยีชาวบ้าน
ตกลง