“ สุนทร มีจำนงค์” เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปลูกป่าแบบวนเกษตร ออมเงินไว้กับต้นไม้ สร้างรายได้และเงินออมระยะยาว เป็นมรดกไว้ให้ลูกหลาน
30 พ.ค. 2568
6
0
“สุนทรมีจำนงค์”เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ
“ สุนทร มีจำนงค์” เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปลูกป่าแบบวนเกษตร ออมเงินไว้กับต้นไม้ สร้างรายได้และเงินออมระยะยาว เป็นมรดกไว้ให้ลูกหลาน

นายสุนทร มีจำนงค์ เกษตรกรวัย 70 ปี จังหวัดอุบลราชธานี มีแนวคิดริเริ่ม “ฝากเงินไว้กับต้นไม้” ภายใต้แนวคิดว่า “ต้นไม้” คือ “สินทรัพย์” ประเภทหนึ่ง การปลูกต้นไม้ ช่วยสร้างรายได้และเงินออมระยะยาว ทั้งเป็นบำเหน็จบำนาญยามสูงวัย และเป็นมรดกแก่ลูกหลานได้ 

ลงทุนทำสวนป่าไม้โตเร็ว ภายใต้แนวคิด “ขายแล้วซื้อใหม่”

นายสุนทรใช้เงิน 640,000 บาท ลงทุนปลูกยูคาลิปตัสบนเนื้อที่ 300 ไร่ ในพื้นที่อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อต้นไม้โตจึงขายที่ดินพร้อมต้นยูคาลิปตัส ในราคา 9 ล้านบาท จากนั้นย้ายถิ่นฐานไปซื้อที่ดินแห่งใหม่ในพื้นที่อำเภอเดชอุดม เพื่อปลูกสวนป่าแบบวนเกษตร ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยปลูกผสมผสานทั้งไม้ป่า พืชเกษตรและทำปศุสัตว์

นายสุนทรแบ่งพื้นที่ปลูกไม้โตเร็วคือ ไม้ยูคาลิปตัส พร้อมปลูกไม้โตช้า เช่น สัก ประดู่ พะยูง ยางนา ฯลฯ เพื่อเป็นการออมเงินกับต้นไม้ เมื่อไม้เติบโตได้ขนาดที่เหมาะสมสามารถขายสร้างรายได้แล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการปลูกพืชเกษตรที่ราคาไม่แน่นอนอีกด้วย  

 

หลักการดูแลจัดการสวนป่า

นายสุนทรแบ่งพื้นที่ สร้างสวนป่าเพื่อการอนุรักษ์ และสวนป่าเพื่อเศรษฐกิจ โดยลงทุนปลูกยูคาลิปตัส ซึ่งเป็นไม้โตเร็วที่ทนต่อสภาพแห้งแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถแตกหน่อได้ดีโดยไม่ต้องปลูกใหม่ ตัดฟันใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่อายุ 3-5 ปี ไม้ยูคาฯ ดูแลจัดการง่าย สร้างรายได้ไว ลงทุนน้อย ผลกำไรดี  ที่สำคัญสามารถแบ่งตัดขายในช่วงที่ไม้ราคาสูง มีความต้องการของตลาดและสามารถตัดแบบรอบหมุนเวียนได้ นายสุนทรเน้นลงทุนทำสวนป่าแบบ “ขายแล้วซื้อใหม่”จากรายได้การขายไม้ โดยแบ่งเงิน จำนวน 60 % เพื่อซื้อที่ดินหรือเช่าที่ดินเพิ่มสำหรับขยายพื้นที่ปลูกสวนป่าอย่างต่อเนื่อง  

นายสุนทรตระหนักดีว่า สภาพอากาศในฤดูแล้ง แล้งจัด เสี่ยงขาดน้ำใช้ในสวนป่า จึงลงทุนขุดสระไว้ในแปลงสวนป่า เพื่อกักเก็บน้ำโดยทำธนาคารน้ำบนดิน มีการวางระบบน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำโดยไม่ใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องสูบน้ำ และขุดบ่อจำนวน 7 บ่อ รอบสวนป่า เพื่อรักษาความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังปลูกต้นกล้วยเพื่อเป็นพืชพี่เลี้ยงให้ไม้ป่าและเป็นแนวกันไฟเปียกในช่วงฤดูแล้ง

 

วางแผนจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อความยั่งยืนในอาชีพ

นายสุนทรประสบความสำเร็จในอาชีพการทำสวนป่า ทั้งแง่ปริมาณและคุณภาพเพราะเน้นบริหารจัดการสวนป่าอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพ ดังนี้  

1. บริหารจัดการสวนป่าแบบผสมผสาน มีการจัดการสวนป่าอย่างเป็นระบบโดยจัดสรรพื้นที่สำหรับปลูกไม้ยูคา ซึ่งเป็นสวนป่าเศรษฐกิจไม้โตเร็ว และสวนไม้ป่ามีค่าเพื่อการอนุรักษ์เช่น สัก พะยูง ประดู่ ยางนา ตะเคียน มีการเติบโตดี ไม่มีโรค และแมลงรบกวน

2. วางแผนสร้างรายได้จากการปลูกสวนป่าใน 3 ระยะ โดยแผนระยะสั้น เมื่ออายุสวนป่า 5 ปี สร้างรายได้จากการขายไม้โตเร็ว ใช้ทำชิ้นไม้สับ เยื่อกระดาษ ส่วนแผนระยะกลาง เมื่ออายุสวนป่า 6-10 ปี สร้างรายได้จากการขายไม้ โตเร็ว ใช้เป็นไม้นั่งร้าน ไม้นิ้ว ไม้แปรรูป และแผนระยะยาวสร้างรายได้จากไม้มีค่าโตช้าที่ปลูกเพื่อเป็นเงินออม

นอกจากนี้ นายสุนทรได้วางแผนส่งต่อความสำเร็จความยั่งยืนอาชีพปลูกสวนป่าจากพ่อสู่ลูก โดยการเพิ่มมูลค่าไม้สวนป่า ได้แก่ สัก พะยูง ประดู่ มะขาม ขนุน โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรกลอัตโนมัติที่ทำงานได้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อทำการผลิตชิ้นส่วนวัสดุให้ได้ขนาดและรูปทรงตามที่ต้องการด้วยการกลึง (CNC) เป็นผลิตภัณฑ์ไม้แกะสลัก 3 มิติโดยนำไม้พะยูง ไม้ขนุน มาแกะสลักเป็นท้าวเวสสุวรรณขนาด 2.5 x 2.5 x7.5 ซม. ขายชิ้นงานละ 199 บาท ทำการตลาดโดยจำหน่ายช่องทางออนไลน์

ที่ผ่านมา นายสุนทรมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตจากสวนป่าอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยปี 2557 ตัดไม้ยูคาลิปตัสขาย มีรายได้ 2.8 ล้านบาท  ปี 2562 มีรายได้ 1.3 ล้านบาท และปี 2567 มีรายได้ 8 แสนบาท  ซึ่งรายได้ทั้งหมดรวมเป็นเงิน  4.9 ล้านบาท  และมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไม้ และงานไม้แกะสลัก 3 มิติ เฉลี่ยเดือนละ 80-100 ชิ้น หรือปีละ 350,000 บาท

อาชีพการทำสวนป่าของนายสุนทร ประสบความสำเร็จในแง่รายได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในท้องถิ่น ก่อให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน เพราะการทำสวนป่าแบบวนเกษตร และแบบผสมผสาน ช่วยเพิ่มความหลากหลายของระบบนิเวศในพื้นที่แล้ว ยังทำให้ดินมีความชุ่มชื้น และมีธาตุอาหารเพิ่มขึ้น  เพราะนายสุนทรแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นสวนป่าเพื่อการอนุรักษ์โดยเป็นการปลูกป่าพื้นบ้านอาหารชุมชน และเป็นที่อยู่ของสัตว์ท้องถิ่นด้วย ประการต่อมา นายสุนทรได้ทำระบบน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำโดยไม่ใช้พลังงาน และมีการขุดบ่อน้ำเพื่อนำน้ำมาใช้หน้าแล้ง สามารถลดการใช้น้ำจากชุมชนอีกด้วย

ด้วยผลงานที่โดดเด่นดังกล่าว ทำให้กรมป่าไม้ เสนอชื่อ นายสุนทร มีจำนงค์ ต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเกษตรกรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพปลูกสวนป่าประจำปี 2568 โดยนายสุนทรได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

ตกลง