เคล็ดลับปลูกพริกให้ได้มาตรฐานส่งออก ป้อนตลาดยุโรป-ญี่ปุ่น สร้างรายได้ตลอดปี
11 ก.ย. 2568
15
0
เคล็ดลับปลูกพริกให้ได้มาตรฐานส่งออก
เคล็ดลับปลูกพริกให้ได้มาตรฐานส่งออก ป้อนตลาดยุโรป-ญี่ปุ่น สร้างรายได้ตลอดปี

นโลกของการเกษตรที่เต็มไปด้วยความท้าทาย “พริก” ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ไม่เพียงแต่สร้างรสชาติให้กับอาหาร แต่ยังสร้างโอกาสทางรายได้ให้กับเกษตรกรไทย หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จคือ “คุณธีรวัฒน์ รังสิกรรพุม” เจ้าของ สายมีฟาร์ม เกษตรกรผู้ปลูกพริกส่งออกยุโรปและญี่ปุ่น ส่งตรงสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล 

 ประสบการณ์การปลูกพริกมากกว่า 10 ปี 

คุณธีรวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า เป็นเกษตรกรที่ปลูกพริกอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ วางแผนการปลูกปีละ 60 ไร่ โดยแบ่งเป็นรุ่นละ 15 ไร่ 2 ครั้ง และรุ่นละ 10 ไร่ 3 ครั้ง จึงทำให้พริกที่ปลูกสามารถส่งขายหมุนเวียนได้ตลอดทั้งปี และเลือกปลูกพริกหลายสายพันธุ์ อาทิ พริกขี้หนูลูกผสม ซุปเปอร์ฮอท40, พริกหนุ่มเขียวลูกผสมมณีมรกต, กรีนฮอท 100 ทีเอ231 และ พริกขี้หนูลูกผสม แฟลชฮอท 

 “พริกที่ผมเลือกปลูกแต่ละสายพันธุ์ ผ่านมาตรฐานในการส่งออก เพราะมีความเผ็ดมีกลิ่นที่หอม และมีผลที่ตรงสม่ำเสมอตลอดการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งการส่งออกไปยังต่างประเทศนั้น จะต้องควบคุมในเรื่องความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอย่างเข้มงวด”  

ในขั้นตอนของการปลูกพริกจะนำเมล็ดพริกมาเพาะลงในกระบะเพาะขนาด 200 หลุม วัสดุที่ใช้เพาะจะเป็นพีทมอส โดยหยอดเมล็ดพริกลงไปในกระบะเพาะ ต้นละ 1 หลุม ซึ่งการเพาะกล้าจะใช้เวลาประมาณ 30-40 วัน พริกจะมีขนาดประมาณ 1 คืบ จึงเตรียมย้ายไปปลูกลงในแปลกที่เตรียมไว้ ซึ่งพริกสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม อย่างเช่นพื้นที่ที่หมดฝนแล้ว ควรเลือกพื้นที่ราบเรียบ ส่วนช่วงที่เป็นฤดูฝนควรเลือกพื้นที่ลาดเอียง

 “การเตรียมแปลงในครั้งแรก เราจะไถตากดินก่อน ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน เราก็จะไถพรวนยกร่องให้มีความสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ให้สันร่องห่างกันประมาณ 1.50 เมตร ปลูกพริกให้ห่างกัน 40-45 เซนติเมตร จะทำให้สามารถปลูกพริกได้ประมาณ 3,500-4,000 ต้นต่อไร่” 

ในเรื่องของการรดน้ำในฟาร์ม คุณธีรวัฒน์จะใช้ระบบการให้น้ำ 2 ระบบ คือ ระบบน้ำหยดกับระบบสปริงเกลอร์ ซึ่งระบบสปริงเกลอร์จะมีข้อดีคือช่วยในเรื่องของการล้างใบ ทำให้อุณหภูมิของใบเย็นลง เป็นการปรับอุณหภูมิกลางวันกับกลางคืนมีความใกล้เคียงกัน ทำให้ลดในเรื่องของอาการเม็ดด่างลงไปได้

 เมื่อลงปลูกพริกในแปลงได้อายุประมาณ 10 วัน จะเริ่มใส่ปุ๋ยสูตร 27-5-5 เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของใบ โดยใส่ปุ๋ยทุกๆ 10 วัน เมื่อพริกมีอายุประมาณ 45 วัน จะเปลี่ยนปุ๋ยเป็นสูตรเสมอ 15-15-15 ในอัตราส่วน 25 กิโลกรัมต่อไร่

“การให้ปุ๋ยเราต้องสังเกตดูสภาพต้น ว่ายอดของพริกที่เราปลูกเจริญเติบโตดีไหม อยู่ที่ความพอใจของคนปลูก สมมุติว่าเราพอแล้วในเรื่องของยอด ต้องการการเพิ่มน้ำหนัก พอพริกเข้าสู่อายุ 60-75 วัน ก็จะปรับปุ๋ยเป็นสูตร 13-13-21 ซึ่งพริกปลูกจนสามารถเก็บผลผลิตได้ ก็ใช้เวลาประมาณ 90 วัน” 

 

เมื่อพริกได้อายุออกผลผลิตจนสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว จะให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 2-3 เดือน ซึ่ง 1 ต้นจะให้ผลผลิตเกิน 1 กิโลกรัมขึ้น ส่วนแมลงศัตรูพืชที่ต้องระวังสำหรับการปลูกพริก จะเป็นพวกเพลี้ยไฟ ไร หนอนเจาะผล ทำการป้องกันด้วยการฉีดพ่นยาที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ

พริกที่ปลูกภายในฟาร์มทั้งหมดและรวมถึงสมาชิกที่มีอยู่ในกลุ่ม จะส่งออกไปยังยุโรปรวมกว่า 20 ประแทศ ส่วนพริกบางส่วนก็จะนำมาขายภายในประเทศ เน้นขายให้กับห้างสรรพสินค้าภายใต้มาตรฐาน GAP (จีเอพี) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ส่งขายไปยังยุโรป

“ตอนนี้พริกแดงตลาดอยู่ประมาณ 35 บาทต่อกิโลกรัม และพริกเขียวอยู่ประมาณ 23-25 บาทต่อกิโลกรัม  1 ไร่ เก็บ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็จะได้ประมาณ 200-300 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งตั้งแต่อยู่ในวงการนี้มาผมก็จะปลูกแต่พริกอย่างเดียว ยังไม่เคยทำเกษตรด้านอื่น เราก็มีขายทั้งแบบเป็นพริกสด และมีการแปรรูปทำเป็นพริกแห้งเพื่อส่งให้กับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ”

สำหรับคนที่อยากจะปลูกพริกเพื่อเป็นอาชีพ คุณธีรวัฒน์ แนะนำว่า ต้องเลือกฤดูกาลที่เหมาะสม ซึ่งการปลูกพริกอาจเรียกว่าเป็นการเกษตรแบบต้นทุนต่ำก็ได้ถ้าปลูกถูกฤดู แต่ถ้าผิดฤดูกาลไม่เหมาะสมมันก็จะทำให้ต้นทุนเราสูงได้ 

“เรื่องพื้นที่ปลูกเป็นเรื่องที่สำคัญ ส่วนเรื่องของสายพันธุ์ตัวนี้ก็สำคัญ ต่อให้เราปลูกดูแลดีขนาดไหน แต่ถ้าสายพันธุ์พริกที่เราปลูกยังไม่มีคุณภาพ ผลผลิตที่เราตั้งเป้าไว้ มันก็จะได้ไม่ดี ดังนั้นเรื่องนี้จึงสำคัญ” 

เส้นทางของคุณธีรวัฒน์ แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จในอาชีพเกษตรไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เกิดจากการวางแผนอย่างรอบคอบ การเลือกพันธุ์ที่มีคุณภาพ ปลูกให้ถูกฤดูกาล และดูแลตามหลักวิชาการ เมื่อทำได้อย่างสม่ำเสมอ พริกแต่ละเม็ดที่เก็บเกี่ยวไม่เพียงแต่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าความตั้งใจและความพยายามสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ 

สำหรับที่กำลังมองหาเส้นทางอาชีพเกษตร การปลูกพริกอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่ ที่พร้อมให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จ ติดต่อสอบถามข้อมลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธีวัฒน์ รังสิกรรพุม หรือคุณโน๊ต สวนตั้งอยู่ที่ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ หมายเลยโทรศัพท์ 093- 193-9292

ตกลง