เตือนภัยการเกษตร ช่วงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์– ๓ มีนาคม ๒๕๖๓
29 ก.พ. 2563
43
0
เตือนภัยการเกษตรช่วงวันที่๒๖กุมภาพันธ์–
เตือนภัยการเกษตร ช่วงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์– ๓ มีนาคม ๒๕๖๓

 “มะม่วง”  ปัญหาที่ควรระวัง เพลี้ยไฟ  แนวทางป้องกัน/แก้ไข  ๑. ถ้าพบไม่มากให้ตัดส่วนที่แมลงระบาด ไปเผาทิ้ง เพราะเพลี้ยไฟมักอยู่กันเป็น กลุ่มบริเวณส่วนยอดอ่อนของพืช ๒. การพ่นสารฆ่าแมลง ควรพ่นระยะติด ดอกอย่างน้อย ๒ ครั้ง คือ ระยะเริ่มแทง ช่อดอกและระยะเริ่มติดผลขนาดมะเขือ พวง (ประมาณ ๐.๕-๑.๐ เซนติเมตร) ถ้า หากปีใดพบเพลี้ยไฟระบาดรุนแรงก็ จำเป็นต้องพ่นซ้ำในระยะก่อนดอกบาน ๓. สารฆ่าแมลงที่แนะนำ คือ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน ๒.๕% อีซี อัตรา ๑๐ มิลลิลิตรต่อน ๒๐ ลิตร หรือเฟนโพรพาทริน ๑๐% อีซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อ น้ำ ๒๐ ลิตร * ในขณะที่ดอกบานควรหลีกเลี่ยงการใช้ สารดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อ แมลงผสมเกสรได้

 

“พริก” ระยะพัฒนาทางด้าน ลำต้น - เก็บเกี่ยว ผลผลิต

ปัญหาที่ควรระวัง  เพลี้ยไฟพริก

๑. สุ่มสำรวจพริก ๑๐๐ ยอด ต่อไร่ ทุกสัปดาห์ โดยเคาะลงบนแผ่นพลาสติกสีดำ และทำการ ป้องกันกำจัดเมื่อพบเพลี้ยไฟพริกเฉลี่ยมากกว่า ๕ ตัวต่อยอด ในขั้นต้นควรเพิ่มความชื้นโดยการ ให้น้ำ อย่าปล่อยให้พืชขาดน้ำ เพราะจะทำให้พืช อ่อนแอ และเพลี้ยไฟพริกจะระบาดอย่างรวดเร็ว ๒. ใช้สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพในการ ป้องกันกำจัด แหล่งปลูกใหม่ พ่นด้วยคาร์บาริล ๘๕% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา ๒๐-๓๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ โพรไทโอฟอส ๕๐% อีซี อัตรา ๒๐-๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ คาร์โบซัลแฟน ๒๐% อีซี อัตรา ๒๐-๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่นซ้ำตามการระบาด แหล่งปลูกเดิม พ่นด้วยฟิโพรนิล ๕% เอสซี อัตรา ๒๐-๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ อีมาเมกตินเบนโซเอต ๑.๙๒% อีซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ อิมิดาโคลพริด ๑๐% เอสเอล อัตรา ๒๐-๔๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่นซ้ำตามการระบาด ขณะพ่นสารควรปรับหัวฉีดให้เป็นฝอยที่สุด และพ่นให้ทั่วตามส่วนต่างๆ ของพืชที่เพลี้ยไฟพริก อาศัยอยู่กรณีระบาดรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ สภาพอากาศแห้งแล้ง ควรใช้ปุ๋ยทางใบ เพื่อช่วยให้ ต้นพริกฟื้นตัวจากอาการใบหงิกได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น

๒. หนอนกระทู้หอม

๑. วิธีเขตกรรม เช่น การไถตากดิน และการ เก็บเศษซากพืชอาหาร เพื่อฆ่าดักแด้ เป็นการ ลดแหล่งสะสมและขยายพันธุ์ ๒. วิธีกล เช่น เก็บกลุ่มไข่และหนอนไปทำลาย จะช่วยลดการระบาดลงได้ ๓. ใช้สารจุลินทรีย์ เช่น เชื้อไวรัส (นิวคลีโอโพลิฮีโดรไวรัส) หนอนกระทู้หอม เช่น DOA BIO V1 (กรมวิชาการเกษตร) หรือใช้เชื้อแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis subsp. aizawai หรือ Bacillus thuringiensis subsp. kurstaki ควรใช้ในระยะที่มีการ ระบาดน้อย หนอนมีขนาดเล็ก และพ่นในช่วง เวลาเย็น หากระบาดมากให้ใช้สารฆ่าแมลง ๔. สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน กำจัด เช่น คลอแรนทรานิลิโพรล ๕.๑๗% เอสซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ คลอร์ฟีนาเพอร์ ๑๐% เอสซี อัตรา ๔๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ อินดอกซาคาร์บ ๑๕% เอสซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ อีมาเมกตินเบนโซเอต ๑.๙๒% อีซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ สไปนีโทแรม ๑๒% เอสซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ เมทอกซีฟีโนไซด์ ๒๔% เอสซี อัตรา ๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ ลูเฟนนูรอน ๕% อีซี อัตรา ๔๐

 

ถั่วเหลือง

๑. หนอนเจาะฝักถั่ว

พ่นสารฆ่าแมลง ไตรอะโซฟอส ๔๐% อีซี อัตรา ๕๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน ๒.๕% อีซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่น ๑-๒ ครั้ง ห่างกัน ๗-๑๐ วัน

๒. หนอนกระทู้ผัก

พ่นเชื้อไวรัสของหนอนกระทู้ผัก อัตรา ๕๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่น ๑-๒ ครั้ง เมื่อ พบการระบาด หรือ พ่นสารฆ่าแมลง แลมบ์ดา-ไซฮาโลทริน ๒.๕% อีซี อัตรา ๑๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ ไตรอะโซฟอส ๔๐% อีซี อัตรา ๔๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร หรือ คลอร์ฟลูอาซูรอน ๕% อีซี อัตรา ๒๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร

 

 

ตกลง