ในนิตยสารเห็ดไทย 2556 ของสมาคมนักวิจัยและเพาะเห็ดแห่งประเทศไทย มีเรื่องของเห็ดที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องการพัฒนาเห็ดเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่ Coprinus comatus (o.F.Mull) Gray ที่เหมาะสมกับการเพาะในประเทศไทย
คุณวราพร ไชยมา นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ กลุ่มวิจัยและพัฒนาเห็ด สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร และคณะ ได้เสนอผลงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาเห็ดเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เห็ดถั่วฝรั่ง ได้ส่งเข้ารับการคัดเลือกเป็นผลงานวิจัยดีเด่น กรมวิชาการเกษตร ในปี 2555 ได้รับการพิจารณาให้เป็นผลงานวิจัยดีเด่น กรมวิชาการเกษตร ประจำปี 2555
เห็ดถั่วฝรั่ง ไม่คุ้นหูกับคนไทยเหมือนเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดแชมปิญอง หรือเห็ดที่นำมาบริโภคเป็นยา เช่น เห็ดหลินจือ เป็นต้น
คุณวราพร หัวหน้าทีมงานวิจัยการพัฒนาเห็ดเศรษฐกิจสายพันธุ์ใหม่ ของสำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ เล่าว่า เห็ดถั่วฝรั่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ เรียกว่า Coprinus comatus เป็นเห็ดเมืองหนาวชนิดหนึ่ง ที่เรารู้จัก คือ เห็ดออรินจิ เห็ดเข็มเงิน เข็มทอง เห็ดถั่วฝรั่งมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ทางแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งเขานิยมรับประทานกันอยู่เสมอ มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีสรรพคุณทางยาด้วย จึงมีคนสนใจที่จะนำมาศึกษาวิจัย เพื่อให้เห็ดถั่วฝรั่งเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับเกษตรกรในบ้านเรา เนื่องจากทางภาคเหนือของประเทศไทยในช่วงฤดูหนาวมีอุณหภูมิที่สามารถนำมาเพาะเลี้ยงได้
“ทางภาคเหนือของประเทศไทยที่มีการเพาะเห็ดเมืองหนาวอยู่แล้ว คือ เห็ดแชมปิญอง มาคิดดูว่าถ้าเราจะมีเห็ดอีกชนิดหนึ่งที่เป็นเห็ดเมืองหนาว ถ้าเรานำมาศึกษาและปรับปรุงการเพาะเลี้ยงเพื่อจะได้มีเห็ดอีกชนิดหนึ่งให้เกษตรกรเพาะเลี้ยง ก็จะมีเห็ดเมืองหนาวเพิ่มขึ้นมาอีกชนิดหนึ่งในบ้านเรา”
คุณวราพร อธิบายว่า เห็ดถั่วฝรั่ง เป็นเห็ดสกุลเดียวกันกับเห็ดถั่วในบ้านเรา มีอีกชื่อหนึ่งว่า เห็ดโคนน้อย แต่เห็ดถั่วฝรั่งเป็นเห็ดที่มีดอกใหญ่ที่สุดในเห็ดสกุลนี้
มีศักยภาพพัฒนา
เป็นเห็ดเศรษฐกิจใหม่
เห็ดถั่วฝรั่ง นิยมบริโภคกันมากในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และประเทศจีน เป็นเห็ดในสกุล Coprinus ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รสชาติอร่อย
ที่สำคัญมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ใน 100 กรัม มีโปรตีน 25.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.57 กรัม ไขมัน 0.34 กรัม เส้นใย 2.02 กรัม เถ้า 1.63 กรัม เกลือแร่และวิตามิน เช่น ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี ไนอะซีน และวิตามินบีต่างๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังมี อะมิโนแอซิด มากกว่า 14 ชนิด ได้แก่ Glutamic, Serine, Alamine acid เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณทางยา สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็ง ป้องกันภาวะหลอดเลือดหัวใจ ลดระดับน้ำตาลในเลือด และความดันโลหิต ที่สำคัญคือ มีเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ นอกจากนั้น ยังมีโปรตีนมากกว่าเห็ดหอมถึง 2 เท่า และสูงกว่านม 8 เท่า
คุณวราพร กล่าวว่า จากคุณสมบัติดังกล่าวและกระแสนิยมอาหารเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันจึงมีการเพาะปลูกเห็ดถั่วฝรั่งกันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ นอกจากนี้ เห็ดถั่วฝรั่ง ยังมีรสชาติดี เมื่อนำมาปรุงอาหารจะมีรสชาติคล้ายเนื้อไก่และมีความกรุบกรอบ
เห็ดถั่วฝรั่ง ที่ปลูกเป็นการค้าในกรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่าเส้นใยเห็ดสามารถเจริญได้ในที่อุณหภูมิค่อนข้างสูง และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว
ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาหาเทคโนโลยีการเพาะเห็ดถั่วฝรั่งเพื่อการค้า เราจึงได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดรวมทั้งปัจจัยต่างๆ และผลผลิตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อเป็นพันธุ์สำหรับแนะนำแก่เกษตรกรในการเพาะเห็ดเมืองหนาวเป็นการค้าในอนาคตต่อไป
ศึกษาสายพันธุ์ จาก
ประเทศเมืองหนาว 5 สายพันธุ์
คุณวราพร กล่าวต่ออีกว่า เห็ดถั่วฝรั่ง ที่นำมาศึกษาทดลองในบ้านเรามีทั้งหมด 5 สายพันธุ์ ด้วยกัน เรานำสายพันธุ์มาจาก 2 แหล่ง คือสายพันธุ์จากสหรัฐอเมริกา 1 สายพันธุ์ และสายพันธุ์การค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน 4 สายพันธุ์ โดยนำมาศึกษาทางสรีรวิทยาและสถานะต่างๆ แล้วคัดเลือกจนได้สายพันธุ์ที่ดี 3 สายพันธุ์ และนำมาเพาะเลี้ยงต่อ ซึ่ง 3 สายพันธุ์ ที่เลือกมานั้นมีลักษณะต่างกัน
“เราได้ทำการศึกษาวิจัยในเรื่องการผลิต การเจริญเติบโตของเส้นใยในอุณหภูมิต่างๆ และเทคโนโลยีการผลิตเห็ดถั่วฝรั่ง การผลิตเชื้อขยายในอาหาร และศึกษาในเรื่องของการให้ผลผลิต”
สำหรับการยอมรับของเกษตรกร คุณวราพร กล่าวว่า ได้ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะให้เกษตรกรยอมรับ เราได้เลือกพื้นที่ที่ทำการศึกษาทดลองเพาะเลี้ยงแบบเชิงพาณิชย์ ที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีการเพาะเลี้ยงเห็ดเมืองหนาวกันอยู่แล้ว คือ เห็ดแชมปิญอง โดยพยายามเลือกเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงเห็ดแชมปิญอง ชี้แจงให้เขาทราบว่า ไม่มีเทคโนโลยีแปลกใหม่อะไร เพียงแต่เปลี่ยนสายพันธุ์เห็ดจากแชมปิญองมาเป็นเห็ดถั่วฝรั่งเท่านั้น ถ้าเกษตรกรไม่ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการที่ทำให้ย