เตือนการเฝ้าระวัง โรครากขาว ยางพารา ประจำเดือน พฤษภาคม 2568
23 พ.ค. 2568
1
0
เตือนการเฝ้าระวัง
เตือนการเฝ้าระวัง โรครากขาว ยางพารา ประจำเดือน พฤษภาคม 2568

เตือนการเฝ้าระวัง โรครากขาว ยางพารา

     โรครากขาวยางพารา (white root disease) เกิดจากเชื้อรา Rigidoporus microporus เป็นโรคทางรากที่สำคัญที่สุดของยางพารา ทำความเสียหายทางเศรษฐกิจหากเกิดการระบาดรุนแรงมีผลทำให้ต้นยางยืนต้นตาย ก่อนกำหนดพบพื้นที่ระบาด 7 จังหวัด (ตราด กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี และสุราษฎร์ธานี) จำนวน 1,541 ไร่ การระบาดเพิ่มขึ้น 101 ไร่ เกษตรกรต้องสูญเสียทั้งผลผลิตและรายได้ เชื้อราสามารถเข้าทำลายรากยางพาราได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป ในระยะเริ่มแรก จะไม่เห็นลักษณะผิดปกติของต้นยางพาราส่วนที่อยู่เหนือพื้นดิน เมื่อส่วนรากถูกทำลายเสียหายจนไม่สามารถดูดน้ำและธาตุอาหารได้จึงแสดงอาการใบเหลืองและใบร่วง ในระยะที่เป็นโรคอย่างรุนแรงจะเป็นสีครีม ถ้าอยู่ในที่ชื้นแฉะ จะมีดอกเห็ดขึ้นที่โคนต้น และดอกเห็ดมีลักษณะเป็นแผ่นครึ่งวงกลม แผ่นเดียวหรือซ้อนกันหลายแผ่นเป็นชั้นๆ เกาะติดกับโคนต้นหรือรากเหมือนหิ้ง ผิวด้านบนของดอกเห็ดเป็นสีเหลืองส้ม เป็นวงสลับสีอ่อนแก่ ขอบดอกเป็นสี ขาว ด้านล่างเป็นสีส้มแดงและเป็นรูเล็กๆ

วิธีการป้องกันกำจัด (ใช้วิธีผสมผสานระหว่างการเขตกรรมและสารเคมี)
   1. การเตรียมพื้นที่ปลูกยางควรทำลายตอไม้เก่าออกให้หมด ไถพลิกหน้าดินตากแดด เพื่อกำจัดเชื้อราที่ เจริญอยู่ในดินและในเศษไม้เล็กๆ ที่หลงเหลืออยู่ในดิน
   2. ในแหล่งที่มีโรคระบาดรุนแรง หลังการเตรียมดินควรปล่อยพื้นที่ว่างไว้ประมาณ 1 - 2 ปี หรือปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่ว หรือปลูกพืชอื่น เพื่อลดการระบาดของโรคและพืชที่ปลูกไม่ควรเป็นพืชอาศัยของโรค
   3. แปลงยางที่มีประวัติการเป็นโรครากขาวมาก่อน แนะนำให้ใช้กำมะถันผง อัตรา 150 กรัม/ต้น ใส่ใน หลุมก่อนปลูกยาง เพื่อลดพีเอช (pH) ของดิน ทำให้ไม่เหมาะต่อการเจริญของเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรค
ถ้าในพื้นที่ที่เป็นโรคอย่างรุนแรง ควรใช้อัตรา 250 กรัม/หลุมปลูกเพื่อปรับสภาพความเป็นกรด ด่างของดิน ให้เหมาะต่อการเจริญของเชื้อปฏิปักษ์ต่อโรครากขาว
   4. หลังจากปลูกยางไปแล้ว 1 ปี ควรสำรวจแปลงยางสม่ำเสมอ ตรวจดูพุ่มใบเพื่อหาต้นยางที่เป็นโรคในพื้นที่ที่ไม่เคยเป็นโรคมาก่อน ควรตรวจปีละ 1 - 2 ครั้ง ส่วนในพื้นที่ที่เคยเป็นโรคมาแล้วให้ตรวจซ้ำทุก 3 เดือน ต้น
ยางเป็นโรครุนแรงควรขุดต้นเผาทำลายและรักษาต้นข้างเคียงโดยการใช้สารเคมี
   5. ต้นยางอายุน้อยกว่า 3 ปี ที่เป็นโรครากขาว ควรขุดเผาทำลายให้หมดเพื่อยับยั้งการระบาดของโรค
   6. ต้นยางที่มีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรขุดคูล้อมบริเวณต้นเป็นโรค (กว้าง 30 เซนติเมตร ลึก 60เซนติเมตร) เพื่อป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดไปยังต้นอื่นโดยการสัมผัสกันของราก และขุดลอกคูทุกปี
   7. ใช้สารเคมีสำหรับรักษาต้นที่เป็นโรคเพียงเล็กน้อย และใช้กับต้นข้างเคียงเพื่อป้องกันโรค เลือกใช้สารเคมีกลุ่มTriazole อัตราความเข้มข้น 20 มิลลิลิตร/น้ำ 1 ลิตร ราดสารเคมีลงในร่องรอบโคนต้น 2-4 ลิตร ขึ้นกับขนาดโคนต้น ใช้สารเคมีทุก 3 เดือน อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ครั้ง

   การรักษาโรครากขาวยางพาราเป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายสูง เพราะถ้าหากมีต้นตายหรือเป็นโรคอย่างรุนแรง จะมีอาการใบเหลืองทั้งต้น สิ่งที่ควรดำเนินการอย่างเร่งด่วนก็ควรขุดรากถอนโคนออกให้หมด
และเผาทำลายทิ้งเพื่อป้องกันและรักษาต้นข้างเคียงไม่ให้เป็นโรค

ที่มา กรมวิชาการเกษตร

ตกลง