เตือนการเฝ้าระวัง โรคเน่าที่ปลายผลเมล่อน
อาการของโรค
จากภาพที่เห็น คือลักษณะของโรคเน่าที่เกิดจากเชื้อรา **Fusarium** หรือ **Phytophthora** ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ:
- ปลายผลเริ่มเน่าและมีเชื้อราสีเขียวอมฟ้าหรือสีน้ำตาลขึ้นปกคลุม
- เนื้อผลเปลี่ยนสีและยุบตัว
- เชื้อราแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง
สาเหตุหลักในโรงเรือน
สำหรับการปลูกในโรงเรือน มีหลายปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุ:
1. ความชื้นสูงเกินไป - โรงเรือนปิดทึบเกินไปทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
2. การให้น้ำมากเกิน - รากเปียกแฉะ ทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ดี
3. ธาตุอาหารไม่เพียงพอ - เมล่อนได้รับธาตุอาหารที่ไม่เพียงพอ
4. การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ - ความแตกต่างของอุณหภูมิกลางวัน-กลางคืนที่มากเกินไป
5. วัสดุปลูกปนเปื้อน - ดินหรือวัสดุปลูกอาจมีเชื้อโรคอยู่แล้ว
วิธีป้องกันที่ได้ผล
การป้องกันดีกว่าการแก้ไข! นี่คือวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยง:
1. จัดการความชื้นและอากาศ
- เพิ่มการระบายอากาศในโรงเรือน
- ติดตั้งพัดลมเพิ่มเติมเพื่อหมุนเวียนอากาศ
- รักษาความชื้นสัมพัทธ์ให้อยู่ที่ 60-70%
2. การจัดการน้ำอย่างเหมาะสม
- ใช้ระบบน้ำหยดแทนการฉีดพ่น
- ให้น้ำตอนเช้า เพื่อให้ความชื้นลดลงในตอนกลางคืน
- หลีกเลี่ยงการให้น้ำมากเกินไป
3. การจัดการธาตุอาหาร
- ใช้ปุ๋ยAB เมล่อนคุณภาพสูง ที่มีธาตุอาหารครบถ้วน ทำให้ต้นเมล่อนแข็งแรง
- หมั่นพลิกผลเพื่อให้แสงส่องถึงทั่วผล
- ตรวจสอบผลอย่างสม่ำเสมอ
4. สุขอนามัยในแปลง
- ล้างมือและเครื่องมือก่อนจับต้องพืช
- กำจัดเศษซากพืชออกจากโรงเรือน
- ฆ่าเชื้อในดินหรือวัสดุปลูกก่อนใช้งาน
วิธีรักษาเมื่อพบโรค
หากพบว่าผลเมล่อนเริ่มเป็นโรคแล้ว ควรดำเนินการดังนี้:
1. การจัดการทางกายภาพ
- แยกผลที่เป็นโรคออกทันที
- ไม่ควรทิ้งไว้ในโรงเรือนเด็ดขาด (นำไปเผาหรือฝังให้ลึก)
- ลดความชื้นในโรงเรือนลงทันที
2. การใช้สารป้องกันกำจัด
- พิจารณาใช้สารกำจัดเชื้อราที่มีประสิทธิภาพ
- สารกลุ่ม benzimidazoles หรือ triazoles มักได้ผลดี
- พ่นในช่วงอากาศแห้ง และต้องใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก
3. วิธีชีวภาพ
- ใช้เชื้อจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ เช่น Trichoderma
- ปรับสภาพดิน,วัสดุปลูกให้เป็นกรดเล็กน้อย (pH 5.8-6.5)
แนะนำผลิตภัณฑ์ "ไตรโคบิวพลัส"
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีส่วนผสมของเชื้อราไตรโคเดอร์ม่าสายพันธุ์พิเศษ ช่วยควบคุมเชื้อราก่อโรคในดิน,วัสดุปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อใช้ร่วมกับการจัดการแปลงที่ดี จะช่วยลดการระบาดของโรคได้อย่างเห็นผล เพียงใช้ 50กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร ราดโคนต้นหรือฉีดพ่นทุก 5-7 วัน
คำแนะนำสุดท้าย
การปลูกเมล่อนให้ได้ผลผลิตคุณภาพดีนั้น ต้องอาศัยความใส่ใจและการสังเกต เมล่อนเป็นพืชที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงการพัฒนาผล
แนะนำปุ๋ย AB คุณภาพสูงจาก Little Farm
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการปลูกเมล่อน คือการใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ ปุ๋ย AB จาก Little Farm สูตรพิเศษสำหรับพืชตระกูลแตงโดยเฉพาะ ประกอบด้วย:
- ธาตุอาหารครบถ้วนที่เมล่อนต้องการ
- อัตราส่วนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละช่วงการเจริญเติบโต
- ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ต้นพืช ทำให้ต้านทานโรคได้ดียิ่งขึ้น
- ทำให้เมล่อนมีรสชาติหวานกรอบ เนื้อแน่น น้ำหนักดี
เกษตรกรที่ใช้ปุ๋ย AB จาก Little Farm ร่วมกับการจัดการแปลงที่ดี พบว่าผลผลิตมีคุณภาพสูงและลดปัญหาโรคได้อย่างเห็นได้ชัด
ขอให้สนุกกับการปลูกเมล่อน และหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกนะคะ