วิธีทำ "น้ำมะม่วง"
29 เม.ย. 2568
36
0
DIY วิธีทำ "น้ำมะม่วง" สร้างอาชีพ กินอร่อย ดีต่อสุขภาพ ทำขายรวย
วิธีทำ น้ำมะม่วง
วิธีทำ "น้ำมะม่วง"

โดยทั่วไป ต้นมะม่วงที่ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง มักติดดอกออกผลในช่วงเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม ของทุกปี และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน  ส่วนมะม่วงที่ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มักติดดอกในช่วงเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์ (ยกเว้นพวกมะม่วงทะวาย) เก็บเกี่ยวเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน บ่อยครั้งที่ต้นมะม่วงแทงช่อดอกและออกดอกพร้อมๆกัน ทำให้ผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ประสบปัญหามะม่วงล้นตลาด และราคาผลผลิตตกต่ำ  

โดยเฉพาะในปีนี้ หากใครได้มีโอกาสเดินสำรวจตลาดค้าส่ง อย่างเช่น ตลาดไท จะพบว่า มะม่วงราคาขายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ ก.ก.ละ 5 บาท ขณะที่บางแผงมะม่วงสุก ราคาถูกมากๆ ลูกค้าสามารถซื้อมะม่วงสุกน้ำหนัก 20 ก.ก. ในราคาตะกร้า 20 บาท เฉลี่ยราคา กก.ละ 1 บาทเท่านั้น

เพื่อกระจายความเสี่ยงทางการตลาด เกษตรกรควรหันมาผลิตมะม่วงนอกฤดู เพื่อลดความเสี่ยงด้านราคา และลองหาวิธีเพิ่มมูลค่าให้กับมะม่วง และสร้างตลาดใหม่ เช่น ขายในรูปแบบ มะม่วงน้ำปลาหวาน เจลลี่มะม่วง  น้ำมะม่วง หรือ  ทำข้าวหมากมะม่วง probiotic ซึ่งขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก แถมดีต่อสุขภาพ เพิ่มโอกาสการขายในกลุ่มคนรักสุขภาพได้อีกทางหนึ่ง

ขั้นตอนการทำง่าย ๆ  ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากนำผลมะม่วงมาล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกมะม่วงออกนำมาล้างน้ำสะอาดอีกรอบ จากนั้นฝานและหั่นเป็นลูกเต๋า ก่อนนำไปปั่นให้ละเอียด หรือ หากมีเครื่องคั้นน้ำผลไม้แบบแยกกากก็จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้น

การนำเนื้อมะม่วงมาปั่นให้ละเอียด มีเทคนิคการปั่นครั้งแรกคือ  ต้องปั่นให้ละเอียดเป็นน้ำก่อน แล้วค่อยๆเติม เนื้อมะม่วง ตามลงไป ค่อยๆปั่นทีละนิดเมื่อได้ปริมาณที่มากเทน้ำออกส่วนหนึ่งให้เหลือน้ำไว้ส่วนหนึ่งแล้ว เติมเนื้อมะม่วง ดิบลงไปอีกหากไม่มีน้ำมะม่วงอยู่จะปั่นยากมากค่อยๆทำไปจนปั่นเสร็จ

เมื่อได้น้ำมะม่วงที่ปั่นละเอียดเรียบร้อยแล้ว ค่อยนำไปกรอง ด้วยผ้าขาวบางเพื่อแยกเอากากออก ขั้นตอนนี้อาจจะต้องทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือและผ้ากรอง ด้วยการลวกน้ำร้อน เพื่อฆ่าเชื้อปนเปื้อนออกไปให้ได้มากที่สุด น้ำมะม่วง จะเก็บอยู่ได้หลายวัน  เมื่อทำการ กรองแยกเอากากออกแล้วน้ำมะม่วงที่ได้ ก็กรอกน้ำมะม่วงใส่ขวดแช่เย็นทิ้งไว้สามารถเก็บอยู่ได้หลายวัน

วิธีนำมารับประทานสามารถดื่มสดๆได้เลย (เขย่าขวดก่อนดื่ม)หรือนำไป ปรุงแต่งอย่างอื่นโดยอาจจะใส่ โซดาลงไปหรือเติมผสมกับน้ำผลไม้อย่างอื่นก็ได้ใช้รับประทานได้ตลอด โดยเฉพาะเวลาที่อากาศร้อนอบอ้าว สามารถป้องกันโรคลมแดดได้ ส่วนกากมะม่วงที่เหลือนำไปทำมะม่วงกวนได้อีก

 

ที่มาของข้อมูล: เทคโนโลยีชาวบ้าน Online
ตกลง