“ไข่ผำ” หรือ “ผำ” เป็นพืชน้ำขนาดเล็กที่มีลักษณะเด่นคือสีเขียวสด รูปร่างคล้ายกับสาหร่ายหรือไข่ปลา เป็นพืชที่ไม่มีรากและใบ แต่สามารถเจริญเติบโตในน้ำสะอาด โดยมักจะลอยอยู่ตามผิวน้ำ
ผำไม่เพียงแต่เป็นอาหารท้องถิ่นที่คนไทยรู้จักกันดี แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่น่าทึ่งจนได้รับการยอมรับว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” ( super food ) แห่งแหล่งน้ำอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการของไข่ผำ (100 กรัม) ประกอบด้วย
1. ไฟเบอร์ ไข่ผำมีไฟเบอร์เทียบเท่ากับการบริโภคขึ้นฉ่ายฝรั่งถึง 2 กำ ช่วยเสริมระบบขับถ่ายและบำรุงสุขภาพลำไส้
2. วิตามิน A ปริมาณวิตามิน A ในไข่ผำเทียบเท่ากับการบริโภคแครอท 4 หัว ช่วยบำรุงสายตาและเสริมภูมิคุ้มกัน
3. วิตามิน B12 ไข่ผำเป็นแหล่งสำคัญของวิตามิน B12 ซึ่งมีปริมาณเทียบเท่ากับไข่ไก่ถึง 9 ฟอง ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือด
4. โพแทสเซียม มีปริมาณโพแทสเซียมเทียบเท่ากับมันฝรั่ง 2 หัว ช่วยควบคุมความดันโลหิตและการทำงานของกล้ามเนื้อ
5. ฟอสฟอรัส ไข่ผำให้ฟอสฟอรัสในปริมาณเทียบเท่านมถั่วเหลือง 2 ถ้วย ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน
6. ธาตุเหล็ก ปริมาณธาตุเหล็กในไข่ผำเทียบเท่ากับบรอกโคลี 3 ถ้วย ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
7. ลูทีนและซีแซนทีน ไข่ผำอุดมไปด้วยสารลูทีนและซีแซนทีนในปริมาณเทียบเท่ามะเขือเทศ 2 ถ้วย ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคตาที่เกิดจากความเสื่อมตามวัย
8. แคลเซียม ไข่ผำมีแคลเซียมเทียบเท่ากับการบริโภคผักโขม 2 ถ้วย ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่อุดมสมบูรณ์ ไข่ผำจึงเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่มองหาโปรตีนทางเลือกจากพืช
นอกจากนี้ การบริโภคไข่ผำยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นพืชที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในธรรมชาติ และไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากในการเพาะเลี้ยง ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ไข่ผำจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พร้อมทั้งช่วยสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่อุดมสมบูรณ์ ไข่ผำจึงเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่มองหาโปรตีนทางเลือกจากพืช
ที่มา : เว็บไซต์ เทคโนโลยีชาวบ้าน เผยแพร่เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568