โรคราสนิมขาว
8 ส.ค. 2566
174
0
โรคราสนิมขาว
โรคราสนิมขาว

ระวัง โรคราสนิมขาว (เชื้อรา Albugo ipomoea-panduratae) Albugo ipomoea-panduratae ในผักบุ้งจีน
สภาพอากาศในช่วงนี้มีฝนตกและฝนตกหนักบางพื้นที่ เตือนผู้ปลูกผักบุ้งจีน ในระยะ ทุกระยะการเจริญเติบโต รับมือโรคราสนิมขาว (เชื้อรา Albugo ipomoea-panduratae)
พบจุดสีเหลืองซีดที่ด้านบนของใบ เมื่อพลิกดูใต้ใบจะเห็นเป็นตุ่มนูนสีขาวขนาดเล็ก ซึ่งเป็นส่วนของเชื้อรา ต่อมาตุ่มนูนจะขยายใหญ่ หากมีหลายตุ่มขยายมาชนกัน จะเห็นเป็นปื้นสีขาวขนาดใหญ่ ทำให้ใบบิดเบี้ยว หรือเป็นคลื่นไม่เรียบ ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และร่วง บางครั้งพบอาการของโรคที่ก้านใบ และลำต้น
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
1. ก่อนปลูกควรไถพลิกกลับหน้าดิน ตากแดด ทิ้งไว้ระยะหนึ่ง และใส่ปูนขาวเพื่อปรับสภาพดิน
2. ใช้เมล็ดพันธุ์ จากแหล่งที่ไม่มีการระบาดของโรค
3. คลุกเมล็ดก่อนปลูกด้วยสารเมทาแลกซิล 35% DS อัตรา 7 กรัมต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม
4. ไม่หว่านผักบุ้งแน่นเกินไป เพราะจะทำให้มีความชื้นสูง
5. กำจัดวัชพืชในแปลงปลูก
6.ตรวจแปลงปลูกสม่ำเสมอ โดยเฉพาะใบล่างๆ เมื่อพบพืชเริ่มแสดงอาการของโรค ตัดส่วนที่เป็นโรค หรือถอนต้น นำไปทำลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารแมนโคเซบ+เมทาแลกซิล-เอ็ม 64%+4% WG อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไซยาโซฟามิด 40% SC อัตรา 6 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไซมอกซานิล+แมนโคเซบ 8%+64% WP อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เมทาแลกซิล 25% WP อัตรา 20 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ 80% WP อัตรา 20-30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วโดยเฉพาะบริเวณด้านใต้ใบ พ่นซ้ำทุก 5 - 7 วัน และควรหยุดพ่นก่อนเก็บเกี่ยวอย่างน้อย 7 วัน
7. แปลงที่พบการระบาดของโรค ควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำแบบพ่นฝอย และไม่ควรให้น้ำจนชื้นแฉะเกินไป
8. หลังการเก็บเกี่ยว ควรนำเศษซากพืชไปทำลายนอกแปลงปลูก
9. ในแปลงที่พบโรคระบาด ควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน


ตกลง