แจ้งเตือนศัตรูพืชระบาด “โรคลำต้นเน่าปาล์มน้ำมัน (Basal stem rot)”
วันที่ 28 ตุลาคม 2564
เตือนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เฝ้าระวังการระบาดของโรคลำต้นเน่าปาล์มน้ำมัน เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้มีฝนตกหนัก มีความชื้นในอากาศสูงเหมาะต่อการแพร่ระบาดของโรค โดยต้นปาล์มน้ำมันที่มีอายุ 1 – 22 ปี จะมีอาการใบเหลืองหรือด่างเป็นปื้นบนทางใบล่าง ใบย่อยแห้งตาย ยอดที่ยัง
ไม่คลี่สั้นกว่าปกติและสีซีด ในปาล์มน้ำมันที่มีอายุมากกว่า 20 ปี เริ่มแรกมักสังเกตได้ค่อนข้างยาก โดยทางใบแก่จะมี
สีซีดจางและหักพับลงรอบลำต้นทางยอดไม่คลี่มีจำ นวนมากกว่าปกติ เมื่ออาการรุนแรงขึ้นจะค่อยๆ แห้งตายลุกลามจนถึงยอดรากที่อยู่บริเวณโคนต้นเปื่อยแห้ง เน่า เกิดดอกเห็ด ดังนั้น เกษตรกรควรหมั่นสำรวจสวนปาล์มน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ หากพบต้นปาล์มน้ำมันมีอาการดังกล่าว ให้รีบขอค้าแนะน้าจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัด เพื่อหาทางควบคุมและป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรง
เชื้อสาเหตุ : เชื้อรา Ganoderma sp.
ลักษณะอาการ
1. ปาล์มน้ำมันอายุ 1 –22 ปี มีอาการใบเหลืองหรือด่างเป็นปื้นบนทางใบล่าง ใบย่อยแห้งตายยอดที่ยังไม่คลี่สั้นกว่าปกติและสีซีด ปลายยอดแห้ง เมื่ออาการรุนแรงใบจะเหลืองทั้งต้น ชะงักการเจริญเติบโตและยืนต้องตายภายใน 6 - 24 เดือน
2. ปาล์มน้ำมันอายุมากกว่า 20 ปี เริ่มแรกมักสังเกตได้ค่อนข้างยาก จะสังเกตเห็นเมื่ออาการลุกลามต้นถูกทำลายมากกว่ารอยละ 50 โดยทางใบแก่สีซีดจางและหักพับลงรอบล้า–ต้น ทางยอดไม่คลี่มีจำนวนมากกว่าปกติ เมื่ออาการรุนแรงขึ้นจะค่อยๆ แห้งตายลุกลามจนถึงยอด รากที่อยู่บริเวณโคนต้นเปื่อยแห้ง เน่า เกิดดอกเห็ด ภายในลำต้นถูกท้าลาย จึงยืนต้นตายหรือหักล้มภายใน 2 - 3 ปี
การแพร่ระบาด
โดยสปอร์จากเห็ดผ่านลม น้ำ อุปกรณ์ทางการเกษตร และการสัมผัสกันทางรากของต้นปาล์มน้ำมัน ใต้ดิน
แนะนำวิธีการป้องกันกำจัด ดังนี้
1. เตรียมพื้นที่ปลูกโดยกำจัดต่อเก่า ท้าความสะอาดแปลงเพื่อกำจัดเชื้อสาเหตุในซากพืช และจัดการ
ระบบระบายน้ำให้ดี
2. กำจัดวัชพืชหรือพืชอาศัยอื่นลดการสะสมของเชื้อในธรรมชาติ
3. ทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือทางการเกษตรก่อนน้าไปใช้ทั้งของเกษตรกร และคนตัดปาล์ม
4. บำรุงต้นปาล์มให้แข็งแรง โดยใส่ปุ๋ยอินทรีย์ผสมกับเชื้อไตรโคเดอร์มา อัตรา เชื้อสด 1 กิโลกรัม
รำละเอียด 4 - 10 กิโลกรัม และปุ๋ยอินทรีย์ 50 - 100 กิโลกรัม หว่านรอบส่งพุ่ม 3 - 6 กิโลกรัมต่อต้น ในช่วงที่มีความชื้นสูงหรือรองก้นก้นหลุมก่อนปลูก 100 กิโลกรัมต่อหลุม
5. หมั่นสำรวจแปลงเพื่อสังเกตลักษณะอาการของโรค โดยเฉพาะแปลงที่เคยมีประวัติการเกิดโรค
ในพื้นที่มาก่อน ตรงบริเวณต้นปกติที่อยู่โดยรอบของจุดที่พบต้นที่เกิดโรค ซึ่งลักษณะอาการผิดปกติเริ่มแรก มักคล้ายกับอาการขาดธาตุ และตรวจสอบการเข้าท้าลายภายในต้น โดยใช้ไม้เคาะล้าต้นหากลำต้นถูกท้าลายจะมีเสียงโปร่งภายใน
6. เมื่อพบดอกเห็ดเจริญเติบโตขึ้นให้รีบกำจัด นำไปทำลายทิ้งนอกแปลงทันที และถากบริเวณที่เนื้อเยื่อที่ถูกทำลายออก ทาทับด้วยเชื้อไตรโคเดอร์มา หรือใช้สารเคมีกำจัดเชื้อรา เช่น thairam และคอยตรวจสอบหากมีดอกเห็ดเกิดขึ้นอีกหรือลักษณะอาการทางใบยังไม่ปกติจะต้องท้าการถากซ้ำ
7. ราดหรือฉีดพ่นบริเวณรอบโคนต้นและโดยรอบอย่างสม่ำเสมอด้วยเชื้อไตรโคเดอร์ม่า โดยผสมเชื้อสด 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 20 - 100 ลิตรกรองเฉพาะน้ำนำมาใช้
8. ขุดหลุมบริเวณรอบโคนต้นที่เกิดโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แต่อาจจะป้องกันได้ไม่สมบูรณ์เนื่องจากต้องขุดหลุมให้ลึกพอ และระวังเรื่องลงตื้นเขินภายหลัง
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์