ปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ กับการปลูกผักแบบปรุงดินยกพื้น
13 ก.ย. 2563
959
0
ปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์
ปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ กับการปลูกผักแบบปรุงดินยกพื้น

ปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ กับการปลูกผักแบบปรุงดินยกพื้น

 

ปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์

ผักไฮโดรโปรนิกหรือผักไร้ดิน คือการปลูกผักในวัสดุปลูกอย่างอื่นที่ไม่ใช่ดิน ธาตุอาหารพืชจะอยู่ในรูปแบบของสารละลายหรือรู้จักในนาม ปุ๋ย AและB ข้อดีก็คือ

1. เป็นวิธีการปลูกพืชที่ช่วยให้สามารถปลูกพืชในสถานที่ที่ไม่เหมาะแก่การปลูกพืชในดิน เช่น ดินกรดจัด เค็มจัด ดินเสื่อมโทรมขาดความอุดมสมบูรณ์

2. เป็นวิธีการปลูกพืชที่ทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้รับน้ำและอาหารอย่างพอเพียงและตลอดเวลา

3. เป็นวิธีการปลูกพืชที่ไม่ต้องมีการเตรียมดิน ใส่ปุ๋ย ฉีดยา ทำให้ประหยัดค่าแรงงานและเวลา

ข้อเสีย

1. เป็นวิธีการปลูกที่ต้องลงทุนสูงในตอนเริ่มต้น เพราะต้องการวัสดุอุปกรณ์ทางเทคนิคหลายอย่าง และมีราคาที่แพง

2. เป็นวิธีการปลูกที่สิ้นเปลืองพลังงาน เพราะต้องอาศัยพลังงานตลอดเวลา เช่น พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น ทำให้มีต้นทุนการผลิตสูงและหากไฟฟ้าขัดข้องเป็นเวลานานเกินไปและไม่มีระบบไฟฟ้าสำรอง จะทำให้พืชที่ปลูกขาดน้ำหรือขาดอากาศตายได้ในเวลาอันสั้น

3. เป็นวิธีการปลูกที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด และต้องการคนที่มีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในการดูแลรักษา จึงจะประสบความสําเร็จได้

นอกจากนี้กระแสความเชื่อในสื่อโซเซียลเรื่องความปลอดภัยในผักโดรฯกำลังมาแรง

โดยเฉพาะเรืองสารก่อมะเร็ง การสะสมของในเตรต การเติมสารกำจัดศัตรูพืชลงไปในสารละลาย สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นข่าวที่โหมกระหน่ำจนคนเริ่มไม่กล้ากินผักไฮโดรฯ ข่าวเหล่านี้อาจเป็นผลเสียต่อการขายของเราก็ได้ เพราะเดี๋ยวนี้คนกลัวตายเพิ่มมากขึ้น

 

การปลูกผักแบบปรุงดินยกพื้น

คือการปลูกผักแบบยกร้าน ต้นทุนจะถูกกว่าการปลูกผักแบบไฮโดรฯมาก การปลูกแบบยกพื้นจะดูแลจัดการแปลงง่าย ห่างไกลแมลงศัตรูพืช มีวัชพืชและโรคระบาดน้อย และที่สำคัญสามารถเก็บผลผลิตได้เร็วขึ้นเกือบ10 วัน เมื่อเทียบกับการปลูกผักบนดิน

ข้อดี

1. ต้นทุนถูก

2. ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าปั๊มสารละลาย

3. ไม่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญมากนัก

 

ข้อเสียส่วนตัวผมว่าไม่มี หรือจะมีก็จะเป็นแปลงที่มีขนาดใหญ่มากๆคือเปลืองแรงงานในการผสมดินปลูกและการเปลี่ยนดิน

ขอตอบคำถามเลยนะครับ ถ้าเป็นผม..ผมจะเริ่มแบบปลูกแบบปรุงดินยกพื้น ส่วนเรื่องการเปลี่ยนดินปลูกนั้น วันนี้ผมประยุกต์การปลูกแบบยกพื้นร่วมกับการเลี้ยงไส้เดือนดิน ทำให้เราสามารถปลูกผักซ้ำในดินเดิมได้2-3รอบต่อการเปลี่ยนดิน1ครั้ง รูปแบบการปลูกแบบยกพื้น หลังคามุงด้วยแสลนดำ 50 เปอร์เซ็นต์ ผมจะยกพื้นสูงจากพื้น70 ซม.กว้างประมาณ1.20เมตรความยาวแล้วแต่เราต้องการ ปูด้วยกระเบื้องรอนคู่ กั้นขอบสูงประมาณ10ซม. ใส่มูลวัวแช่น้ำ5-7วันลงไป จากนั้นปล่อยไส้เดือนลงไปในเบดดิ้งที่เราเตรียมไว้ ส่วนภาชนะเราใช้กระจาดหรือถาดพลาสติกเจาะรูขนาด2-3หุนให้ทั่ว

ส่วนดินที่ปลูกเราสามารถเตรียมง่ายๆ ใบไม้ผุ 40% มูลสัตว์ 30 % รำอ่อน 10% แกลบเผา (แกลบดำ) 10% กาบมะพร้าวสับ 10 % คลุกเคล้าให้เข้ากัน ราดด้วยน้ำหมักจุลินทรีย์ที่ช่วยในการย่อสลาย กองหมักไว้อย่างน้อย15วันยิ่งนานยิ่งดี ระหว่างหมักหมั่นรดน้ำเพื่อให้ปุ๋ยชื้นไม่แห้ง บางท่านอาจนำส่วนผสมใส่ถุงกระสอบๆละครึ่งถุง เปิดปาก เพื่อหมักไว้ประมาณ1เดือนก็ได้ เมื่อหมักดินเสร็จก็นำมาใส่กระบะเรียงให้เต็มบนขี้วัวที่เราเลี้ยงไส้เดือนไว้ จากนั้นก็ปลูกผัก ถ้าวัสดุปลูกในกระบะยุบ ก็คอยเติมดินที่เราหมักไว้ให้เต็ม ส่วนเบดดิ้งไส้เดือนยุบก็เติมเบดดิ้งลงไปเหมือนกัน แค่นี้ใครก็อยากซื้อผักเราไปกิน เพราะมี...ส.ด.ด..รับรอง(ไส้เดือนดินรับรอง) เนื่องจากมีสารเคมีปนเปื้อนไส้เดือนก็จะตาย แต่ถ้าไส้เดือนเราอ้วนสมบูรณ์ แสดงว่าผักเราปลอดสารพิษแน่นอน

ที่มา เพจเฟสบุ๊คเรียนเกษตรง่ายๆกับครูชาตรี

ตกลง