พืชหลังนา ทนแล้ง ใช้น้ำน้อย สร้างรายได้ !
การปลูก #พืชหลังนา นอกจากจะช่วยปรับปรุงบำรุงดินแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกร ในช่วง"หน้าแล้ง"ได้
"นโยบายลดพื้นที่ทำนาปรัง" ในเขตชลประทาน เนื่องจากในช่วงฤดูแล้ง พบปัญหาขาดแคลนน้ำ ราคาข้าวตกต่ำ ต้นทุนผลิตสูง ผลตอบแทนน้อย ทางราชการจึงส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูก "พืชหลังนา" ที่ใช้น้ำน้อย จำพวกพืชไร่ พืชผักต่างๆ เพราะนอกจากใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพแล้วยังสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย
ลักษณะพันธุ์พืชที่เหมาะสมสำหรับปลูกหลังนา
• อายุสั้น • หลังการทำนามีช่วงเวลาที่จำกัด การปลูกพืชหลังนาโดยอาศัยความชื้นที่เหลืออยู่ พืชที่มีอายุสั้นจะได้เปรียบ เนื่องจากช่วงอายุเก็บเกี่ยวสั้นกว่า
• ทนแล้ง •เนื่องจากความชื้นที่เหลืออยู่หลังเก็บเกี่ยวข้าว มีความชื้นเพียงพอสำหรับการปลูกพืชในระยะแรกประมาณ 1 เดือน
• ความแข็งแรงของต้นกล้า • ในระยะแรกของการเจริญเติบโตพืชควรมีความสามารถในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในสภาพที่ต้องแข่งขันกับวัชพืช และความชื้นในดินที่จำกัด ตลอดจนผลกระทบอื่นๆเช่น โรคและแมลง
• ไม่ไวแสง • ช่วงหลังการทำนาในฤดูแล้ง เป็นช่วงวันสั้น หากปลูกพืชที่ตอบสนองต่อช่วงแสง เช่นถั่วเหลืองบางพันธุ์หรืองา ทำให้ออกดอกเร็วเกินไป ดังนั้นพันธุ์พืชที่เหมาะสมต้องไม่ตอบสนองต่อช่วงแสง
• ทนทานต่อน้ำขัง • ช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าวมักเจอปัญหาน้ำท่วมขังจากการจัดการน้ำที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ระยะออกดอกถึงเก็บเกี่ยวจะเจอปัญหาฝนตก ดังนั้นพืชที่เหมาะสมควรทนทานต่อการทำลายของน้ำฝน และมีความสามารถให้ผลผลิตได้
• ลักษณะอื่นๆ • คือสามารถต้านทานโรคและแมลง ฝักไม่แตก มีการพักตัวของเมล็ด ลำต้นไม่หักล้ม
ชนิดของพืชที่จะปลูก ควรคำนึงถึงปัจจัยดังนี้
• ตลาดต้องการ • ผลผลิตราคาดี
• มีแหล่งรับซื้อ • เหมาะสมกับพื้นที่ปลูก
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร