ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 14 (นางสาวนนทิชา วรรณสว่าง) ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมประชุมตรวจราชการแบบบูรณาการของคณะผู้ตรวจราชการกระทรวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รอบที่ 2
28 พ.ค. 2568
26
0
ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 14 (นางสาวนนทิชา วรรณสว่าง) ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมประชุมตรวจราชการแบบบูรณาการของคณะผู้ตรวจราชการกระทรวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รอบที่ 2

วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568 ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 14 (นางสาวนนทิชา วรรณสว่าง) ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมประชุมตรวจราชการแบบบูรณาการของคณะผู้ตรวจราชการกระทรวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 14 ณ ห้องประชุมพรหมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พันตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม และมีประเด็นการตรวจติดตามที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร คือ การตรวจติดตามนโยบายเร่งด่วน และนโยบายสำคัญของรัฐบาล ประเด็น การป้องกันและแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ดังนี้
1. การขับเคลื่อนตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับจังหวัด ดังนี้
1.1 ดำเนินการขับเคลื่อนเสร็จเรียบร้อยตามแผน แล้ว 1 โครงการ ได้แก่ โครงการส่งเสริมเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(สนง.เกษตรจังหวัด) โดยการ จัดเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day) แก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ณ โรงเรียนบ้านไทยวิทยาคม ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เกษตรกรเข้าร่วมงานจำนวน 300 ราย จาก 9 อำเภอ โดยจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกร 300 ราย ที่มาร่วมงาน โดยจัดในรูปแบบฐานเรียนรู้จำนวน 6 ฐาน เช่น ฐานเรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตรปลอดการเผา และการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ฐานเรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ต่อสุขภาพ ฐานเรียนรู้เกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น รวมทั้งลงพื้นที่สร้างการรับรู้ป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรของชุดปฏิบัติการ ระดับอำเภอทั้ง 25 อำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี เกษตรกรที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติ ส่งผลให้พื้นที่เผาลดลง
1.2 อยู่ระหว่างดำเนินการขับเคลื่อนตามแผน จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
1.2.1 โครงการบริหารจัดการที่ดินในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และความสมดุลการจัดการทรัพยากรที่ดิน (LDN) (สถานีพัฒนาที่ดินอุบลราชธานี) อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ได้แก่ การปรับระดับพื้นที่นา การปรับระดับพื้นที่นาแบบมีคูน้ำ การจัดทำบ่อดักตะกอนดิน การทำทางลำเลียงในไร่นา โดยดำเนินการในพื้นที่อำเภอโพธิ์ไทร พื้นที่ดำเนินการ จำนวน 1,500 ไร่ งบประมาณ 1,950,000 บาท
1.2.2 โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืนและการจัดการเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4) กิจกรรม อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตและการลดก๊าซเรือนกระจกให้กับเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 กลุ่ม มีแผนการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอพิบูลมังสาหาร ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการฝึกอบรมช่วงเดือนมิถุนายน 2568 และกิจกรรม การจัดทำแปลงต้นแบบเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกจำนวน 10 แปลง ดำเนินการงานวิจัยแปลงต้นแบบการวิจัยและพัฒนากระบวนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและกักเก็บคาร์บอน เพื่อรับรองคาร์บอนเครดิตในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่อำเภอเดชอุดม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เกษตรกรจำนวน 10 รายๆ ละ 15 ไร่ อยู่ระหว่าง ติดตามให้คำแนะนำสำหรับแปลงต้นแบบ เก็บตัวอย่างดินแปลงต้นแบบเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหาร จัดพิกัดแปลง XY
1.2.3 โครงการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตของการยางแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ พ.ศ.2568 (การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดอุบลราชธานี) ดำเนินการ รับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 7,172.93 ไร่ จากทั้งหมด 25 อำเภอ และได้ดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อขอยื่นขึ้นทะเบียน โดยที่ปรึกษาได้เข้าพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อวางแปลงตัวอย่างกึ่งถาวรและสำรวจเก็บข้อมูลการเติบโตของต้นยางพาราสำรวจและรวบรวมชั้นข้อมูล เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร
2. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่
มีการดำเนินการ ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 มีนโยบายให้ลดการเผาในระดับจังหวัด ได้แก่
1. จัดทำแผนการป้องกันและแก้ปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ปี 2567/68 จังหวัดอุบลราชธานี
2. จัดทำคำสั่ง/ประกาศ ต่างๆ ที่ดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม
3. จัดกิจกรรมรณรงค์/ประชาสัมพันธ์
4. ลงพื้นที่ตรวจสอบจุด HOT SPOT และทำความเข้าใจกับเกษตรกรในพื้นที่เผา
5. รายงานผลการดำเนินงาน ทั้งระดับจังหวัดและระดับกระทรวง
ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน
3.1 เกษตรกร มีเงินทุนไม่เพียงพอสำหรับการไถกลบตอซัง จึงใช้การเผาพื้นที่เกษตรเพื่อเป็นการประหยัดเวลาและลดต้นทุน
3.2 การทำความเข้าใจกับเกษตรกรให้เห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จากการไม่เผาพื้นที่การเกษตรต้องใช้ระยะเวลา
3.3 รัฐบาล ควรมีนโยบายสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการไถกลบตอซังข้าว เพื่อเป็นการลดภาระเกษตรกร โดยอาจจะปรับจากการช่วยค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตข้าว ไร่ละ 1,000 บาท เป็น 500 บาท แล้วเปลี่ยนเป็นการช่วยเหลือเรื่องการไถ่กลบตอซังข้าวไร่ละ 500 บาท 
ทั้งนี้ นางสาวนนทิชา วรรณสว่าง ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 14 ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังนี้
1. การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นเรื่องสำคัญ หากประเทศไทยยังไม่สามารถดำเนินการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ จะส่งกระทบต่อสินค้าส่งออก เช่น สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม
2. การหยุดเผาในพื้นที่เกษตร ขอให้ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์การป้องกันการเผาในพื้นที่เกษตร โดยใช้คำที่ประชาชนเข้าใจง่าย สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และควรเพิ่มเป้าหมายในการรณรงค์เป็นกลุ่มนักเรียนและผู้ปกครอง
3. ปัญหาการเผาฟางข้าว อ้อย เนื่องจากเกษตรกรไม่มีเงินค่าไถกลบตอซังนั้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับเครื่องจักรกลการเกษตรแบบใหม่ที่สามารถไถกลบตอซังได้ และศึกษาเรื่องจุลินทรีย์ที่สามารถนำมาย่อยสลายฟางข้าวในนาข้าวได้
4. การตั้งเป้าหมายหรือสถิติตัวเลขการลดการเผาในพื้นที่เกษตร ควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนและขอให้นำเสนอผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

ตกลง