ปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ตำบลดอนแร่ หันมาเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์กันอย่างแพร่หลายเพราะใช้ต้นทุนต่ำ และไข่ไก่อินทรีย์เป็นสินค้าขายดี เป็นที่ต้องการของตลาดคนรักสุขภาพ เกษตรกรแต่ละรายมักเลี้ยงไก่ไข่ตั้งแต่ 100-300 ตัว การเลี้ยงในระบบนี้ ไก่ไข่จะมีอายุการเลี้ยงค่อนข้างนานกว่าไก่ไข่ที่เลี้ยงในระบบฟาร์ม ประมาณ 3-4 ปี 

การเลี้ยงไก่ไข่ในระบบเกษตรอินทรีย์มีจุดเด่นสำคัญคือ ไข่ไก่อินทรีย์มีความสดใหม่แตกต่างจากไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบทั่วไป เมื่อนำไข่ไก่อินทรีย์ไปตอกเปลือกออก จะได้ไข่ไก่ที่จับเป็นก้อนสีเข้มแดงเข้ม ไม่มีน้ำเหลว บริเวณเปลือกหนากว่าไข่ไก่ทั่วไป เนื่องจากปล่อยให้ไก่ไข่คุ้ยหากินปลวกและแมลงในดงกอไผ่ตามธรรมชาตินั่นเอง

นอกจากเก็บไข่ไก่อินทรีย์แล้ว เกษตรกรยังมีรายได้จากการขายหน่อไม้ไผ่รวกอีกด้วย ไผ่รวกที่ปลูกในโซนเลี้ยงไก่ไข่นั้น มีคุณภาพดี หน่อไม้มีขนาดใหญ่สมบูรณ์เพราะได้ปุ๋ยบำรุงดิน จากมูลไก่ที่ถ่ายไว้ตามโคนกอไผ่ ช่วยประหยัดค่าปุ๋ยบำรุงดินได้อีก แค่ดูแลรดน้ำให้เกิดความชุ่มชื่น ทั้งไก่และหน่อไม้อยู่ได้แบบสมดุลกัน ไข่ไก่ที่เลี้ยงในระบบนี้ ชาวบ้านส่งขายให้กลุ่มผู้เลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ ตำบลดอนแร่ เป็นผู้รวบรวมผลผลิตส่งขายตลาดอีกทางหนึ่ง

ปัจจุบัน ผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ นิยมบริโภคไข่ไก่อินทรีย์เพิ่มมากขึ้น เพราะปลอดภัยต่อสุขภาพ มีรสชาติอร่อย เวลานำไปทอดกิน ไข่ไก่จะไม่มีกลิ่นคาว แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนกินอีกต่างหาก ทำให้สินค้าขายดี จนผลิตไม่ทันกับความต้องการของตลาด จึงอยากเชิญชวนผู้สนใจแบ่งพื้นที่ว่างในสวนหันมาเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์ออกขายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_220801?fbclid=IwAR0SHxLD4uyi08xoSqWrH9hB_c9v-KpnsDdUe0bKu_KnHnyzpEgmzqzVSAg