นายปัญญา ปะพุทสะโร กรรมการผู้จัดการบริษัทเก้าเจริญทรานสปอร์ตจำกัด ผู้ประกอบการโลจิสติกส์รายใหญ่ที่มีการนำสินค้าจากไทยขึ้นขบวนรถไฟระหว่างประเทศไทย - ลาว และต่อไปยังประเทศจีน ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยของการขนส่งสินค้าขึ้นขบวนรถไฟ ที่จะเดินทางออกจากสถานีรถไฟหนองคายไปยังสถานีเวียงจันทน์ และต่อรถไฟจีนโดยตรงเป็นขบวนแรก   นายปัญญา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีการเปิดให้บริการรถไฟระหว่างลาว - จีน อย่างเป็นทางการ เมื่อปีที่แล้ว ทางบริษัทได้มีการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ ช่วงเดือน มิ.ย.64 เป็นต้นมา โดยเป็นตู้ทรานส์ซิส จากท่าเรือแหลมฉบังไปประเทศลาว และดำเนินการมาเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้ได้นำเม็ดพลาสติกของกลุ่ม ปตท. ไออาร์พีซี และจีซี จำนวน 3 ตู้ไปที่ประเทศจีน โดยแยกจำนวน 1 ตู้ไปเมืองคุนหมิง และอีก 2 ตู้ไปเมืองกว่างโจว ใช้เวลา 3 วัน เดินทางถึงปลายทางที่ประเทศจีน หลังจากนี้ประมาณวันที่ 15 มี.ค.65 จะเป็นสินค้าประเภทผลไม้ เช่น ทุเรียนชุมพร 1 ตู้แช่เย็น ไปเมืองโม่ฮั่น และขนุนประจวบ 2 ตู้แช่เย็น ไปยังเมืองคุนหมิง นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้ทำการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งการขนส่งทางรถไฟถือเป็นการขนส่งที่สะดวก เมื่อเทียบกับค่าระวางเรือในปัจจุบันถือว่าช่วยลดต้นทุนได้มาก หากนำสินค้าส่งทางเรือไปคุนหมิงจะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน แต่หากขนส่งทางรถไฟจะคิดเป็นชั่วโมงประมาณ 30 ชั่วโมง   สำหรับปัญหาความล่าช้าของพิธีการผ่านแดนในประเทศเพื่อนบ้านนั้น ทางบริษัทได้แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มเจ้าหน้าที่ไปคอยประสานงานที่เมืองบ่อเต็น ประเทศลาว และมีคนงานอยู่ที่เมืองโม่ฮั่น ประเทศจีน พยายามทำงานด้านเอกสารให้แล้วเสร็จก่อน ถึงจะช้าแต่คงไม่นาน หากเป็นสินค้าประเภทผลไม้แม้จะถึงช้ากว่ากำหนดแต่จะไม่เกิดความเสียหายต่อสินค้าเพราะมีระบบความเย็นที่สามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ในวันนี้จะมีการขนส่งสินค้าไปยังประเทศโปแลนด์และเยอรมัน แต่เกิดปัญหาสงครามรัสเซียกับยูเครนทำให้ไปไม่ได้ แต่คาดว่าภายในเดือนนี้จะมีตู้ขนสินค้าของ ปตท.ไปยังประเทศรัสเซียได้ เพราะจีนกับรัสเซียยังสามารถค้าขายกันได้อยู่ ตอนนี้ทางบริษัทรอเข้ารัสเซียก่อน ส่วนประเทศยุโรปต้องรอดูว่าสงครามจบแล้วจะเป็นยังไง เพราะทางบริษัทมีลูกค้าในประเทศอิตาลีและอีกหลายประเทศในยุโรปที่รถไฟสามารถเดินทางไปได้หมดซึ่งสินค้าที่ขนส่งไปยุโรปเป็นเส้นใยและเม็ดพลาสติก จากปัญหาสงครามรัสเซีย ยูเครน กระทบการขนส่งทางรถไฟน้อยกว่าขนส่งทางเรือ   นายปัญญา กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่สามารถขนส่งทางรถไฟไปจีนได้นั้น ทำให้มีออร์เดอร์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทผลไม้ เช่น ทุเรียน ขนุน มะพร้าว มะม่วง จากทั่วประเทศไทย มีความต้องการส่งออกเฉลี่ยวันละ 3 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งทางบริษัทกำลังสั่งตู้แช่เย็นเพิ่มเติม มีการสั่งทำตู้ใหม่ทั้งตู้ร้อนและตู้เย็น ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ได้ ในขณะนี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนภาคเอกชนเป็นอย่างดี ทางด่านศุลกากรหนองคายก็มีนโยบายที่จะให้บริการไวและเร็ว ซึ่งจะมีการตรวจปล่อยสินค้าที่สถานีรถไฟหนองคายอยู่แล้ว ทำให้ช่วยให้การดำเนินการรวดเร็วคล่องตัวมากขึ้น ในอนาคตพื้นที่ของการรถไฟ สถานีหนองคาย จะมีการทำโมบายเอ็กซเรย์และพื้นที่อารักขา เท่ากับว่าภาครัฐให้ความช่วยเหลือในทุกด้านเป็นอย่างดี.