คาร์บอนเครดิตในนาข้าว...ชาวนามีส่วนร่วมลดโลกร้อนได้ ep.1/2
คาร์บอนเครดิตเป็นหัวข้อพูดคุยกันมานานแล้วในเรื่องหลักการและประโยชน์ที่จะได้รับ มีจุดเริ่มต้นในวงการไม้ยืนต้นที่มีอายุหลายปีโดยการเจริญเติบโตของพืชยืนต้น จะมีการดูดใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เปลี่ยนเป็นเนื้อเยื่อของพืช และเนื่องจากเป็นพืชยืนต้นจึงมีการดูดใช้ก๊าซอย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยลักษณะนี้เองผู้ที่ปลูกพืชยืนต้นก็สามารถนำไปขายเป็นคาร์บอนเครดิตได้ แต่ในปัจจุบันมีความพยายามซื้อขายคาร์บอนเครดิตในพืชล้มลุก พืชเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ทั้งข้าวโพด อ้อย และข้าว แต่มีหลายท่านสงสัยว่า บรรดาพืชเศรษฐกิจเหล่านี้ โดยเฉพาะข้าวไม่ได้มีอายุยืนนานเหมือนกับไม้ยืนต้นที่ปลูกในสวนป่า หรือป่าชุมชน มันจะช่วยดูดใช้ได้ดีเหมือนกับไม้ยืนต้นหรือเปล่า ดังนั้นผมจะให้ทุกท่านกลับมาดูนิยามของคาร์บอนเครดิตอีกครั้ง คาร์บอนเครดิต (Carbon credit) คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลด/ดูดกลับ/ดูดซับได้จากการดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านกลไกลดก๊าซเรือนกระจกทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีหน่วยการวัดเป็นตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และสามารถนำคาร์บอนเครดิตไปแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายได้ (องค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก, 2565) เมื่อเข้าใจความหมายแล้ว การผลิตข้าวที่ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGs) จึงเข้าเงื่อนไข “ลดการปลดปล่อย” ซึ่งเป็นคนละเงื่อนไขกับไม้ยืนต้น
#คาร์บอนเครดิต #ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก #การผลิตข้าว #ทีมงานเทคโนโลยีการผลิตข้าว #อบก #TGO
ศวข สุรินทร์
ศูนย์วิจัยข้าวฉะเชิงเทรา
ศูนย์วิจัยข้าวราชบุรี
ศูนย์วิจัยข้าวขอนแก่น
ศูนย์วิจัยข้าวปัตตานี
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวแพร่
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกำแพงเพชร หน่วยงานราชการ
กองประสานงานโครงการพระราชดำริ กรมการข้าว
อารักขาพืชสนง.เกษตรอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดราชบุรี
สำนักงานเกษตรอำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
สนง.เกษตรอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช
สำนักส่งเสริมการผลิตข้าว