เตือนภัย หลอกปลูกอินทผลัม
4 ส.ค. 2565
982
42
ที่มา : เรื่องเล่า ข่าวเกษตร
เตือนภัย หลอกปลูกอินทผลัม
เตือนภัย หลอกปลูกอินทผลัม

กลุ่มผู้เสียหายถูกหลอกปลูกอินทผลัมจากหลายจังหวัด รวมตัวร้องศูนย์ดำรงค์ธรรมจ จ.ร้อยเอ็ด อ้างถูกหลอกลงทุนซื้อต้นพันธุ์ ปุ๋ย และซื้อหุ้น สูญเงินรวมกันกว่า 60 ล้าน สุดท้ายบริษัทคู่สัญญาไม่รับซื้อ ไม่จ่ายเงินปันผล  ด้านสื่อสังคมออนไลน์ เพจเฟซบุ๊กข่าวสารวงการเกษตร เดินหน้าแจ้งเตือนประชาชนควรหาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะยังมีการชักชวนปลูกพืชเศรษฐกิจตัวใหม่อย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบที่ไม่ต่างกันมากนัก

กลุ่มผู้ปลูกอินทผลัม 20 คน จาก  7 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด ยโสธร มหาสารคาม อำนาจเจริญ อุบลราชธานี  ศรีสะเกษ และ สุรินทร์ รวมตัวกัน ที่สวนอินทผลัมของตัวแทนกลุ่มในตำบลโพธิ์ใหญ่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำไปยื่นขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงค์ธรรม จ.ร้อยเอ็ด หลังถูกหลอกลงทุนปลูกอินทผลัม ตัวแทนเกษตรกร เปิดเผยว่า เมื่อ 4 ปีก่อน พวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และครู หวังจะมีรายได้หลังเกษียณ จึงนำเงินเก็บ และบางส่วนก็กู้เงินมาลงทุน รวมกลุ่มปลูกอินทผลัมทั้งหมด 264 ราย  เหตุผลก็เพราะถูกชักชวน จากบุคคลที่สร้างภาพลักษณ์เป็นประธานบริษัทที่น่าเชื่อถือ ชวนเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลููกอินทผลัม โปรโมตยกย่องว่าเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างรายได้ ส่งขายต่างประเทศ แต่ต้องลงทุนซื้อต้นพันธุ์ ไร่ละ 57,000 บาทก่อน จากนั้นก็ซื้อปุ๋ย สารเคมี ยาบำรุง จากบริษัทและใช้ตามคำแนะนำ บริษัทที่มาชักชวนจะใช้สื่อสังคมออนไลน์สร้างภาพลักษณ์ให้น่าเชื่อถือ ใช้ภาพบุคคลมีชื่อเสียงมาแอบอ้าง และทำสัญญาซื้อคืนผลผลิต เพื่อนำไปแปรรูปจำหน่าย รับรองว่ามีตลาดรองรับที่มั่นคง จึงมีคนหลงเชื่อเอาเงินมาร่วมลงทุนเพิ่มขึ้น  กลุ่มที่ออกมาร้องเรียนมีพื้นที่ปลูกรวมกันกว่า 500 ไร่ และยังเชื่อว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกทั่วประเทศ ที่ยังไม่กล้าเปิดเผยตัว นอกจากนั้น ในช่วงระยะเวลาที่ส่งเสริมการปลูก ยังได้เชิญชวนเกษรกรที่เข้าร่วมโครงการ ให้ลงทุนร่วมหุ้น หรือซื้อหุ้นกับโครงการอีกด้วยการร่วมลงทุนหุ้นละ 5,550 บาท ได้ไม่จำกัดจำนวน และผู้เข้าร่วมหุ้น จะได้รับเงินปันผล ภายใน 8  เดือน ถึง 1 ปี จะได้เงินคืนหุ้นละ 23,560 บาท โดยแต่ละหุ้นจะได้รับผลประโยชน์ตลอดชีพ ตราบที่ยังไม่ถอนหุ้น บางคนลงทุนซื้อหุ้นไปกว่า 5 แสนบาท แต่ปรากฏว่าในปีนี้ เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ก็ไม่ได้เงินปันผล ที่สำคัญคือไม่ได้ขายผลผลิตด้วย สูญเงินรวมกันกว่า 60 ล้านบาท ผู้เสียหาย ชี้ให้เห็นเล่ห์เหลี่ยมสารพัดที่บริษัทอ้าง ทั้งการตรวจผลอินทผลัม ว่ามีผลเล็กไม่ได้ขนาดจึงไม่ซื้อ  จนต้องดิ้นรนขายผลผลิตเพื่อเอาตัวรอดกันเอง และรวมทั้งต้องหาทางออกด้วยการแปรรูป เป็นปลาร้าอินทผลัมออกขายแต่ก็ยังไม่คุ้มทุน จึงต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม  ทั้งนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ โดยแนะนำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายและผลกระทบที่ได้รับ  ให้รวบรวมพยานหลักฐาน ที่มีไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ กับพนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่จังหวัดของแต่ละคน เพื่อเอาผิดกับผู้หลอกลวงตามพยานหลักฐาน ก่อนหน้านี้สื่อสังคมออนไลน์ อย่างเพจเฟซบุ๊ก ที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารในวงการเกษตร พยายามแจ้งเตือนเกษตรกร ในประเด็นการหลอกลงทุน ที่ชักชวนปลูกพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ มีรายได้ดี เพื่อหวังว่าจะทำให้ประชาชนค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อป้องกันความสูญเสียเช่นเดียวกับการหลอกปลูกพืชอื่นๆ หลายชนิด อย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ตกลง