เกษตรกรสตูล ปลูกผักสลัดบนกระเบื้อง ผักโตดี ไม่ง้อเคมี เก็บขายส่งห้าง รายได้งามเกษตรกรสตูล
12 มี.ค. 2568
24
0
เกษตรกรสตูล ปลูกผักสลัดบนกระเบื้อง ผักโตดี ไม่ง้อเคมี เก็บขายส่งห้าง รายได้งามเกษตรกรสตูล
เกษตรกรสตูลปลูกผักสลัดบนกระเบื้อง
เกษตรกรสตูล ปลูกผักสลัดบนกระเบื้อง ผักโตดี ไม่ง้อเคมี เก็บขายส่งห้าง รายได้งามเกษตรกรสตูล

เกษตรกรสตูล ปลูกผักสลัดบนกระเบื้อง ผักโตดี ไม่ง้อเคมี เก็บขายส่งห้าง รายได้งามเกษตรกรสตูล ปลูกผักสลัดบนกระเบื้อง ผักโตดี ไม่ง้อเคมี เก็บขายส่งห้าง 
ผู้เขียน ธาวิดา ศิริสัมพันธ์เผยแพร่ วันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2568คุณสมศักดิ์ จันทรักษ์ หรือ พี่ศักดิ์ เจ้าของสวนผักตาหวาน ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 บ้านควนล่อน ตำบลควนกาหลง อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล อดีตเกษตรกรชาวสวนยาง ตัดสินใจโค่นต้นยางพารา เพื่อใช้พื้นที่มาทำโรงเรือนปลูกผัก ทำไปทำมาได้ผลดีเกินคาด พลิกชีวิตจากเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย สู่เกษตรกรตัวอย่างมีเงินเก็บเดือนละ 20,000-30,000 บาท จากการปลูกผักส่งห้างสรรพสินค้า
พี่ศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนตนเองประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน บนพื้นที่รวมทั้งหมดเกือบ 10 ไร่ แต่ในช่วงหลายปีหลังมานี้สถานการณ์ราคายางพาราไม่สู้ดีนัก ประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เพราะมีรายได้จากการกรีดยางเพียงวันละ 200-300 บาท ซึ่งถ้าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปทั้งลูกและภรรยาจะไม่มีอนาคตที่สดใสแน่นอน จึงมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นที่สวนยางมาทำการเกษตรอย่างอื่นให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวมากขึ้น


คุณสมศักดิ์ จันทรักษ์ หรือ พี่ศักดิ์โดยได้รับคำแนะนำจากเกษตรอำเภอ ให้เข้าอบรมศึกษาหาความรู้หลักสูตรการทำการเกษตรในด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการทำสวนยางและสวนปาล์มน้ำมัน ก็เริ่มเปิดใจและได้เข้าร่วมอบรมหาความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ จนได้มาเจอกับหลักสูตรการปลูกผักบนกระเบื้อง เป็นหลักสูตรที่ถูกใจและคิดว่าจะนำมาต่อยอดที่บ้านเองได้
“หลังจากที่อบรมเสร็จ ผมก็ได้กลับมาทดลองปลูกผักที่บ้าน เริ่มต้นทำจากง่ายๆ แบบยังไม่ได้มีการทำโรงเรือนปลูกผักตามมาตรฐานทั่วไป แต่จะใช้วิธีการนำล้อยางรถยนต์มาซ้อนกัน 2 ชั้น แล้วนำไม้มาพาด แล้วก็นำกระเบื้องมาวางทับอีกชั้น เพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ จากนั้นก็ค่อยๆ หาความรู้เรื่องการผสมดินปลูกจากยูทูบบ้าง จากกูเกิลบ้าง ดูจนเข้าใจในเรื่องการผสมดินปลูกในระดับหนึ่ง ก็เริ่มปลูกจาก 1 แปลง มีขนาดความกว้างประมาณ 7 เมตร ยาว 1.3 เมตร และทดลองปลูกจากผักสวนครัวก่อน ไม่ว่าจะเป็นกวางตุ้ง ผักกาดขาว คะน้า ปลูกแบบอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ เน้นใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักในการบำรุง และพอถึงเวลาเก็บเกี่ยวผักก็โตดี รสชาติหวานกรอบ ส่วนหนึ่งเก็บมาบริโภคเอง เหลือก็เอาไปขาย แล้วพอนำไปขายก็เริ่มเห็นเงิน จึงเริ่มเกิดแนวคิดว่าการปลูกผักขายน่าจะเป็นอีกหนึ่งอาชีพสร้างเงินได้ไม่น้อย”

 

 

สภาพแปลงปลูกผักบนกระเบื้อง ดูแลจัดการง่ายจากนั้นจึงได้มีการศึกษาการทำน้ำหมักต่อจากปราชญ์ชาวบ้านหลายๆ ท่าน แล้วนำมาประยุกต์ทำเป็นน้ำหมักสูตรของตนเอง เรียกว่า “น้ำหมักปลาตาหวาน” และได้มีการพัฒนาการทำน้ำหมักสูตรอื่นๆ เพิ่มเติมอีกเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนนมสด น้ำหมักเศษอาหาร น้ำหมักสับปะรด จุลินทรีย์หน่อกล้วย จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง จนมาถึงการทำสารไล่แมลงเอง คือการทำน้ำหมักเหล้าขาว และน้ำหมักยาสูบ เพราะมีเป้าหมายว่าที่สวนจะปลูกแต่เฉพาะผักอินทรีย์เท่านั้น

“บัตเตอร์เฮด” ต้นใหญ่ น่ากินปลูกผักสลัดบนกระเบื้อง ดูแลจัดการน้อยผักโตดี รสชาติหวานกรอบ ขายได้ราคาเจ้าของบอกว่า หลังจากที่ตัดสินใจโค่นยางพาราทิ้ง ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงพื้นที่มาปลูกผักตั้งแต่ปี 2561 นับเป็นเวลาเกือบ 5 ปี ที่คลุกคลีอยู่กับการปลูกผัก ก็ถือได้ว่าล้มลุกคลุกคลานมาไม่น้อย กว่าที่จะได้เทคนิคการปลูกผักยังไงให้ได้ผลผลิตดี แต่ใช้เวลาในการจัดการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก
Advertisement

“กรีนโอ๊ค” ปลูกบนกระเบื้องได้ผลผลิตดี ข้อดีของการปลูกผักยกแคร่บนกระเบื้องมีข้อดีดังนี้1. ปลอดภัยจากศัตรูพืช และสะดวกในการจัดการดูแล ทั้งในแง่ของสุขภาพที่ไม่ต้องก้มนานๆ ให้ปวดหลัง หน้ามืด และหากมองในมุมมองของธุรกิจ เมื่อคนทำอายุมากขึ้น ถ้าต้องใช้แรงเยอะในขณะที่ร่างกายเราอ่อนแอลง แต่ว่าการทำงานยังคงที่ก็คงแย่
2. ต้นทุนค่าวัสดุปลูกต่ำกว่าการปลูกในกระบะที่ต้องใช้ดินเยอะๆ และมีวิธีการจัดการที่ง่ายกว่า เพราะถ้าหากดินเยอะจำเป็นต้องบริหารจัดการตากดินเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตรงส่วนนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายของการใช้สารจุลินทรีย์หรือสารชีวภัณฑ์ในการจัดการ แต่การปลูกผักบนกระเบื้องไม่ต้องดูแลจัดการดินให้ยุ่งยาก
Advertisement
“หลังเก็บเกี่ยวเสร็จให้ถอนรากออกให้หมดแล้วตากดินทิ้งไว้ 2 วัน จากนั้นใช้ซ่อมพรวนพลิกตากดินเอาดินข้างล่างขึ้นข้างบน ตากแดดทิ้งไว้อีกประมาณ 2-3 วัน แล้วเข้ากระบวนการใช้ปุ๋ยหมักผสม หรือใช้แกลบเก่า มะพร้าวสับ ที่ผ่านการแช่น้ำมาแล้ว 1 อาทิตย์ เพื่อชะล้างสารเทนนินในกากมะพร้าวออก ที่เป็นตัวการสำคัญทำให้ผักเหลือง จากนั้นนำมาผสมกับดินบนกระเบื้อง แล้วเกลี่ยดินให้เสมอกัน รดน้ำไว้ 1 คืน ตอนเย็นของอีกวันเริ่มย้ายกล้าลงปลูกได้”
3. ผักโตดี เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว เพราะปกติผักสลัดทั่วไปจะใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 45-50 วัน แต่ของที่สวนจะใช้เวลาในการปลูกเพียง 40-45 วัน

“เรดโอ๊ค” สีแดงสวย พร้อมเก็บเกี่ยว“นอกจากดินดี ทำให้ผักโตดีแล้ว การบริหารจัดการแปลงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากอยู่ในช่วงฝนตกหนัก โรงเรือนไม่มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝนผักจะเกิดความเสียหาย เพราะฉะนั้นที่สวนจะให้ความสำคัญกับโรงเรือนเพาะปลูกด้วย คือจะต้องทำหลังคาคลุมกันฝนกันแดด โดยใช้ผ้ายางใสมุงเป็นหลังคา ที่ต้องมีความหนาไม่ต่ำกว่า 150-200 ไมครอน และกันแสงยูวีได้ไม่ต่ำกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ แทนที่แสงจะโดนผักโดยตรง ผ้ายางที่ใช้มุงเป็นหลังคาก็ช่วยลดความร้อนที่จะส่งถึงผักโดยตรง และหากเป็นช่วงที่ฝนตกหนักใบผักจะไม่แตก ดินก็จะไม่แน่น”
เทคนิคการผสมดินปลูก บนแปลงที่ความยาว 6 เมตร กว้าง 1-1.3 เมตร คือมาตรฐานโต๊ะปลูกผักทั่วไป จะมีอัตราการผสมดินดังนี้ 1. ดิน 6 กระสอบ 2. มะพร้าวสับ 2 กระสอบ 3. แกลบเก่า 2 กระสอบ 4. ขุยมะพร้าว 2 กระสอบ 5. แกลบดำ หรือแกลบเผา 1 กระสอบ 6. เปลือกไข่บดเสริมแคลเซียม 1-2 กิโลกรัม 7. ปุ๋ยคอก 6 กระสอบ หรือถ้าใส่ปุ๋ยหมักให้ใส่ 2 กระสอบ เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง จากนั้นใช้น้ำหมัก หรือถ้าไม่มีน้ำหมักให้ใช้ EM ผสมแทน

“มินิคอส” หวานกรอบแน่นอนโดยของที่สวนจะเลือกใช้น้ำหมักมีอยู่ 3 ตัวหลักๆ ได้แก่ น้ำหมักปลา น้ำหมักจุลินทรีย์หน่อกล้วย และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง เลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งมาผสมกับน้ำ ในอัตราน้ำหมัก 10 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 10 ลิตร ผสมกับกากน้ำตาลอีก 10 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วเทน้ำหมักราดลงไป และคลุกเคล้าดินให้เข้ากับน้ำหมักอีกครั้ง แล้วหมักทิ้งไว้ 2 เดือน ก่อนขึ้นแปลงปลูก
การเพาะต้นกล้า ใช้เวลาเพาะกล้า 14 วัน วันที่ 15 ลงแปลงปลูก โดยวิธีการเพาะกล้าของที่สวนจะเป็นการเพาะในตะกร้า ข้อดีคือสามารถเลือกต้นพันธุ์ได้ ใช้เวลาเพาะในตะกร้าประมาณ 7 วัน จากนั้นย้ายต้นกล้าลงถาดหลุมเพาะต่ออีก 7 วัน เมล็ดพันธุ์ 1 ซอง มีประมาณ 500 เมล็ด เพาะได้ประมาณ 5 ถาดหลุม สามารถเลือกต้นกล้าลงแปลงปลูกได้ 2 รุ่น นั่นหมายความว่าถ้าต้นกล้าโตไม่ทันกัน แต่เราสามารถเลือกต้นที่โตกว่าลงก่อนได้
ระยะห่างในการปลูก ที่สวนเน้นปลูกผักสลัด 4 ชนิด ได้แก่ เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค มินิคอส และบัตเตอร์เฮด จะปลูกในระยะห่างที่ไม่เท่ากัน หากเป็นเรดโอ๊คและกรีนโอ๊ค ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 25 เซนติเมตร มินิคอส ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 12 เซนติเมตร และบัตเตอร์เฮด ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 15 เซนติเมตร

สาธิตการทำน้ำหมักสูตรต่างๆ การดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ยรดน้ำด้วยระบบมินิสปริงเกลอร์แบบพ่นฝอย ในช่วงที่สภาพอากาศปกติเปิดรดน้ำเช้า-เย็น ครั้งละ 3-5 นาที อยู่ที่ความชื้นของดินด้วย แต่ถ้าช่วงไหนมีอากาศร้อนจัดๆ จะเพิ่มการรดน้ำในช่วง 11 โมงเช้าถึงบ่ายโมง
บำรุงใส่ปุ๋ยทางดิน เน้นใส่ปุ๋ยขี้ไก่ หรือปุ๋ยขี้วัวหมัก 7-10 วันครั้ง โรยระหว่างแถวแล้วคลุกเคล้าไปพร้อมกับการพรวนดิน
ฉีดพ่นปุ๋ยบำรุงทางใบ หลังจากย้ายกล้าลงแปลงปลูก 10 วัน เริ่มฉีดพ่นบำรุงด้วยน้ำหมักทุก 3 วัน โดยก่อนถึงวันเก็บเกี่ยว 1 อาทิตย์ จะหยุดการบำรุงด้วยน้ำหมักทุกชนิด
น้ำหมักที่ใช้ในการฉีดบำรุงทางใบจะมีอยู่ 3 ตัวหลักๆ ได้แก่ น้ำหมักเศษอาหาร น้ำหมักปลา และฮอร์โมนนมสด โดยฮอร์โมนนมสดจะต้องหมักทิ้งไว้ประมาณ 18-24 วันก่อนนำมาใช้ ส่วนน้ำหมักปลา และน้ำหมักเศษอาหารจะหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ปี เพื่อให้ได้สารอาหารที่พืชต้องการครบถ้วน ช่วยให้ผักโตไว รสชาติหวานกรอบ เป็นที่ต้องการของตลาด
วิธีการใช้ นำน้ำหมักปลาและน้ำหมักเศษอาหารมาผสมในอัตราส่วนเท่ากัน ตัวอย่างเช่น นำเอาน้ำหมักปลา 1 ลิตร กับน้ำหมักเศษอาหาร 1 ลิตร มาผสมกัน แล้วตักมาใช้เพียง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 16 ลิตร แล้วผสมกับฮอร์โมนนมสดอีก 3 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันแล้วนำมาฉีดพ่นบำรุงทางใบ

 

เก็บเกี่ยวผลผลิตคุณภาพ เตรียมส่งห้างสรรพสินค้าสูตรน้ำหมักปลาตาหวาน ในถัง 200 ลิตรใช้ปลาทะเลหรือปลาน้ำจืด ประมาณ 80-100 กิโลกรัมสับปะรด 15-20 กิโลกรัมกากน้ำตาล 20 ลิตรรำละเอียด 1-2 กิโลกรัมพด.2 จำนวน 5-6 ซองพด.3 จำนวน 5 ซองกระชาย 1-2 กิโลกรัมบอระเพ็ด 1-2 กิโลกรัม
บรรยากาศภายในสวนผักตาหวาน ชุ่มชื่น มองแล้วสบายตา วิธีทำ
นำเอาส่วนผสมทั้งหมดนี้มารวมกันแล้วหมักทิ้งไว้ในถัง 200 ลิตร เป็นเวลา 1 ปี เรียกว่า “น้ำหมักปลาตาหวาน” โดยเป็นสูตรที่ทางสวนคิดค้นเอง
และยังมีอีกสูตรที่ทุกคนสามารถทำใช้ในครัวเรือนได้เองง่ายๆ ก็คือ สูตรน้ำหมักเศษอาหาร ในถัง 20 ลิตร
ส่วนผสม 1. ใช้กากน้ำตาล 5 ลิตร 2. น้ำเปล่า 5 ลิตร 3. พด.2 จำนวน 2 ซอง และส่วนที่เหลือคือเศษอาหารที่เหลือทิ้งในครัวเรือนใส่ให้เต็มถัง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 5 เซนติเมตรจากปากถัง หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 เดือน
วิธีใช้ ก่อนนำมาใช้ให้ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำ ในอัตราส่วนน้ำหมัก 2-3 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบในช่วงเช้า เพราะเป็นช่วงที่ปากพืชเปิด โดยวิธีการพ่นให้พ่นใต้ใบ จะช่วยให้พืชดูดซึมอาหารได้ดี เพราะปากพืชอยู่ใต้ใบ
การป้องกันกำจัดแมลง ด้วยน้ำหมักเหล้าขาว กับน้ำหมักยาสูบ ในอัตราส่วน เหล้าขาว 2 ส่วน กากน้ำตาล 1 ส่วน น้ำส้มสายชู 1 ส่วน หมักทิ้งไว้ 1 คืน
วิธีการใช้ น้ำหมักเหล้าขาว 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมกับน้ำหมักยาสูบ 2 ลิตร ฉีดพ่นทุก 2-3 วันครั้ง ในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น เพราะแมลงจะเริ่มลงในช่วงหัวค่ำ และเป็นเวลาที่ผีเสื้อจะเริ่มวางไข่ แล้วฟักตัวเป็นหนอน แล้วหนอนจะลงไปทำลายพืชผักที่ปลูกไว้
ปริมาณผลผลิต ก่อนที่จะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ เมื่อก่อนปลูกผัก 1 แปลงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียง 5 กิโลกรัม จนได้มีการพัฒนาลองผิดลองถูกปรับสูตรการผสมดิน และปรับสูตรการทำน้ำหมักจนเข้าที่ ปัจจุบัน ผัก 1 แปลง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 25-30 กิโลกรัมต่อโต๊ะ โดยเก็บส่งห้างสรรพสินค้าในจังหวัดเป็นหลัก อาทิตย์ละครั้ง เก็บส่งอาทิตย์ละ 4 โต๊ะ คิดเป็นรายได้ประมาณ 2,000 กว่าบาทต่อโต๊ะ กับอีกส่วนคือเปิดให้คนในหมู่บ้านและในละแวกใกล้เคียงเข้ามาซื้อที่สวน โดยจะนำรายได้ตรงส่วนนี้มาไว้ใช้จ่ายประจำวันในครอบครัว และส่วนรายได้ของการส่งห้างสรรพสินค้าจะกันไว้เป็นเงินเก็บ
“จากแต่ก่อนที่เริ่มปลูกผักเพียงเพราะอยากให้คนในครอบครัวได้กินผักปลอดสารพิษ ต่อมามีความคิดที่จะปลูกผักขาย และตอนนี้สามารถผลักดันตัวเองไปถึงการทำตลาดขายส่งห้างให้กับห้างได้เอง ไม่ต้องยืมขาเพื่อนมาวิ่ง โดยยึดสโลแกน ปลูกได้ ขายหมด และมีคติประจำใจคือ ทำให้จริง ทำให้ดี ทำให้ได้ แล้วจะประสบผลสำเร็จ

ตกลง