ระเบียบคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรว่าด้วยการรับจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การใช้จ่ายเงิน เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน การจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน และการจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีของกองทุนเป็นสูญ พ.ศ. 2556
29 มิ.ย. 2561
1,406
819

 

ระเบียบคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ว่าด้วยการรับจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การใช้จ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของกองทุน การจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน และการจําหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีของกองทุนเป็นสูญ พ.ศ. ๒๕๕๖

 

โดยที่เป็นการสมควรกําหนดระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการดําเนินการเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี การพัสดุ และการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๘ (๔) แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ. ๒๕๕๔ คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรโดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ว่าด้วยการรับจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การใช้จ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของกองทุน การจัดหาผลประโยชน์ของกองทุน และการจําหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีของกองทุนเป็นสูญ พ.ศ. ๒๕๕๖

ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในระเบียบนี้โครงการที่ได้รับอนุมัติหมายความว่า โครงการส่งเสริมการผลิตผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้น หรือผลิตภัณฑ์อาหาร โครงการส่งเสริมการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานคุณภาพของผลิตผล เกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหาร โครงการรักษาเสถียรภาพของราคาและการจําหน่ายผลิตผล เกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหาร โครงการดําเนินการที่จําเป็นและเร่งด่วนเพื่อป้องกันและขจัดภัย อันจะเป็นผลเสียหายแก่เกษตรกร โครงการศึกษาวิจัย เพื่อการพัฒนาการผลิต การแปรรูป หรือการตลาด ซึ่งผลิตผลเกษตรกรรมขั้นต้นหรือผลิตภัณฑ์อาหาร โดยให้เกษตรกรมีส่วนร่วม ในการดําเนินการ โครงการติดตามผลการดําเนินการตามโครงการที่ได้รับการช่วยเหลือหรือส่งเสริม จากกองทุน ที่คณะกรรมการหรือคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้จัดสรรเงินจากกองทุนเพื่อดําเนินการ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะจัดสรรสําหรับเป็นเงินหมุนเวียนหรือเงินจ่ายขาดสํานักงานหมายความว่า สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 ข้อ ๔ ให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามระเบียบนี้ หมวด ๑ การรับเงิน
และทรัพย์สิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของกองทุน

 ข้อ ๕ กองทุน ประกอบด้วย

        (๑) เงิน ทรัพย์สิน สิทธิ และหนี้สินที่โอนมาจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรตามมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัตินี้

        (๒) เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้จากงบประมาณรายจ่ายประจําปี

        (๓) ค่าธรรมเนียมการส่งออกและค่าธรรมเนียมการนําเข้าที่เรียกเก็บได้ตามพระราชบัญญัตินี้

        (๔) เงินกู้โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี

        (๕) ดอกผลของเงินกองทุน

        (๖) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้มอบให้

ข้อ ๖ ให้สํานักงานเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของกองทุนและดําเนินการเบิกจ่ายเงินกองทุน ตามพระราชบัญญัตินี้

ข้อ ๗ ให้สานํ ักงานเปิดบัญชีเงินฝากของกองทุนไว้ที่กระทรวงการคลัง ชื่อบัญชี กองทุน สงเคราะห์เกษตรกรสําหรับการรับจ่ายเงินกองทุน เพื่อความคล่องตัวในการบริหารงานกองทุน ให้สํานักงานเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารที่เป็น รัฐวิสาหกิจหรือธนาคารเฉพาะกิจของรัฐชื่อบัญชีเดียวกันกับวรรคหนึ่งภายในวงเงิน เงื่อนไขและวิธีการ ที่คณะกรรมการกําหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง

ข้อ ๘ ให้สํานักงานมีอํานาจนําเงินกองทุนไปหาดอกผลโดยการฝากออมทรัพย์หรือฝากประจํา กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจ หรือการซื้อหลักทรัพย์ของรัฐบาลได้ โดยพิจารณาจากกระแสเงินสด หรือสภาพคล่องของกองทุน ภายใต้หลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ

ข้อ ๙ ในแต่ละปีงบประมาณให้สานักงานจัดทําประมาณการรายรับ - รายจ่ายประจําปีของกองทุน เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนําเสนอขออนุมัติจากกระทรวงการคลังภายในระยะเวลาที่กําหนด ในกรณีที่มีความจําเป็นเร่งด่วนและประมาณการรายรับ - รายจ่าย ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ จากกระทรวงการคลังให้ใช้ประมาณการรายรับ - รายจ่ายประจําปีที่ได้รับความเห็นชอบในปีที่ล่วงมาแล้ว ไปพลางก่อนโดยอนุมัติของคณะกรรมการ

ข้อ ๑๐ การขอรับจัดสรรเงินกองทุน

          (๑) หน่วยงานของรัฐและองค์กรเกษตรกรสามารถขอรับจัดสรรเงินกองทุนเพื่อดําเนินการ โครงการได้ โดยเสนอแผนการดําเนินงานโครงการต่อสํานักงานหรือสํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด

          (๒) องค์กรเกษตรกรสามารถขอรับจัดสรรเงินกองทุนเพื่อเป็นสินเชื่อแก่สมาชิกได้ โดยเสนอ แผนการดําเนินงานโครงการต่อหน่วยงานของรัฐที่กํากับดูแล

ข้อ ๑๑ ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนเปิดบัญชีเงินฝาก กับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจเป็นรายโครงการ ชื่อบัญชี เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร โครงการ....และแจ้งเลขที่บัญชีเงินฝากให้สํานักงานทราบเพื่อโอนเงินเข้าบัญชี

ข้อ ๑๒ กําหนดระยะเวลาการส่งเงินคืนกองทุนและอัตราดอกเบี้ย ให้เป็นไปตาม
ที่คณะกรรมการ กําหนด

         *อัตราดอกเบี้ยตามวรรคหนึ่ง ให้คิดในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี

ข้อ ๑๓ ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุน ขอเบิกเงิน
โดยทําเป็นหนังสือยื่นต่อสํานักงาน โดยมีเอกสารประกอบ ดังนี้

           (๑) มติคณะรัฐมนตรี (ถ้ามี)

           (๒) มติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร

           (๓) แผนการดําเนินงานโครงการ ประกอบด้วย แผนปฏิบัติงาน แผนการใช้จ่ายเงิน แผนการส่งเงินคืนกองทุน ซึ่งคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรมีมติเห็นชอบ

           (๔) ชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร ตามข้อ ๑๑

           (๕) บันทึกคํารับรองผู้เบิก

           (๖) อื่น ๆ ตามที่สํานักงานกําหนดหรือขอเพิ่มเติม

ข้อ ๑๔ ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนปฏิบัติ ดังนี้

           (๑) การใช้จ่ายเงินกองทุนต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการที่ได้รับอนุมัติ และใช้ จ่ายเงินตามรายการหรือกิจกรรมที่ขอเบิกเท่านั้น จะนําไปใช้จ่ายเพื่อการอื่นมิได้

            (๒) การจ่ายเงินกองทุน ให้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายตามที่กําหนดในแผนการดําเนินงานโครงการ

                 กรณีเงินหมุนเวียน ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายตามที่กําหนด ในแผนการดําเนินงานโครงการ อย่างช้าไม่เกินสิบห้าวันนับจากวันที่เงินโอนเข้าบัญชี และให้นําส่งเงินคืน สํานักงานภายในสิบห้าวันนับแต่วันครบกําหนดให้ใช้เงิน โดยระบุชื่อโครงการ ประเภทของเงินที่นําส่ง และปีที่เบิกเงินไปจากกองทุน

                  กรณีเงินจ่ายขาด ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรสามารถจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายใน การติดตามงานตามความจําเป็น และให้นําส่งเงินคืนสํานักงานภายในสิบห้าวันนับแต่วันสิ้นสุดโครงการ

             (๓) หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรใดไม่นําส่งเงินคืนกองทุนภายในกําหนด ให้สํานักงาน เสนอรายงานต่อคณะกรรมการ เพื่อพิจารณามีมติไม่อนุมัติโครงการอื่นใดของหน่วยงานของรัฐหรือ องค์กรเกษตรกรนั้นอีก

                 กรณีโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วและยังไม่สิ้นสุดระยะเวลาดําเนินการ และมีเงินที่สํานักงาน จะต้องเบิกจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรตามแผนการดําเนินงานโครงการอยู่อีก ให้สํานักงานหักกลบลบกับจํานวนเงินที่หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรจะต้องส่งคืนออกจาก จํานวนเงินที่จะเบิกจ่าย แล้วจึงโอนเงินส่วนที่เหลือให้แก่หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรนั้น

ข้อ ๑๕ ให้หน่วยงานของรัฐที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนตามโครงการที่ได้รับอนุมัติและประสงค์ จะนําไปให้เกษตรกรกู้ยืม ถือปฏิบัติดังนี้

          (๑) จัดทํารายละเอียดจํานวนเงินที่จะจัดสรรให้เกษตรกรกู้ยืม รวมทั้งมาตรการกํากับดูแล การใช้เงินกองทุนที่ได้รับจัดสรร โดยคํานึงถึงวัตถุประสงค์ ระยะเวลาที่จําเป็นต้องใช้เงิน ความสามารถ ในการส่งเงินคืนกองทุน และแผนการชําระเงินคืนกองทุนของเกษตรกร เพื่อนําเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ พิจารณาอนุมัติ

          (๒) กรณีที่จะจัดสรรเงินกองทุนให้เกษตรกรที่มีหนี้ค้างชําระกองทุน หน่วยงานของรัฐจะจัดสรรเงิน ให้ได้ต่อเมื่อเกษตรกรรายนั้นชําระหนี้คืนกองทุนเสร็จสิ้นแล้ว เว้นแต่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่า มิใช่ความผิดของเกษตรกรที่ไม่สามารถชําระหนี้คืนได้

           (๓) ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐทําสัญญาการจัดสรรเงินกองทุนกับเกษตรกร
ตามวัตถุประสงค์ และเงื่อนไขของโครงการที่ได้รับอนุมัติ รวมทั้งสอดคล้องกับสัญญาการใช้เงินระหว่างกองทุนกับหน่วยงานของรัฐ ตลอดจนระเบียบและหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่คณะกรรมการกําหนด

           (๔) รายงานผลการจัดสรรเงินกองทุนให้เกษตรกรกู้ยืมตามแบบที่สํานักงานกําหนดภายใน สิบวันทําการนับแตว่ ันที่ได้จัดสรร หากหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรใดไม่ปฏิบัติตามบันทึกคํารับรองผู้เบิก ให้สํานักงาน ระงับการจ่ายเงินและรายงานคณะกรรมการเพื่อทราบ

ข้อ ๑๖ ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนตามโครงการ
ที่ได้รับอนุมัติติดตามและควบคุมการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ หากมีดอกผลเกิดขึ้น.ให้ดําเนินการตามที่คณะกรรมการกำหนด

ข้อ ๑๗ ให้หน่วยงานของรัฐและองค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุน จัดทํารายงาน การรับ - จ่ายเงิน และรายงานผลการปฏิบัติงาน ตามรายโครงการที่ได้รับอนุมัติ ให้สํานักงานทราบ เป็นรายไตรมาส

ข้อ ๑๘ ให้หนวยงานของร ่ ัฐที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนเพื่อดําเนินการโครงการ จัดทํางบการเงิน ของโครงการที่ได้รับอนุมัติ ส่งให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบภายในหกสิบวันนับแต่วัน สิ้นปีงบประมาณ จนกว่าจะเสร็จสิ้นโครงการ

           ให้องค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนเพื่อดําเนินการโครงการ จัดทํางบการเงิน ของโครงการที่ได้รับอนุมัติ พร้อมทั้งรวบรวมใบสําคัญจ่ายและเอกสารอื่นอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้ ส่งให้สํานักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ จนกว่าจะเสร็จสิ้นโครงการ และให้สํานักงาน นําส่งงบการเงินนั้นให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับ งบการเงิน

            ให้องค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนเพื่อเป็นสินเชื่อแก่สมาชิก จัดทํางบการเงิน ของโครงการที่ได้รับอนุมัติ พร้อมทั้งรวบรวมใบสําคัญจ่ายและเอกสารอื่นอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้
ส่งให้หน่วยงานของรัฐที่กํากับดูแลภายในสามสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ จนกว่าจะเสร็จสิ้นโครงการ และให้หน่วยงานของรัฐที่กํากับดูแลนําส่งงบการเงินนั้นให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับงบการเงิน

ข้อ ๑๙ ให้สํานักงานระงับการเบิกจ่ายเงินส่วนที่เหลือ กรณีหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกร มิได้นําเงินกองทุนไปดําเนินการตามวัตถุประสงค์และแผนการดําเนินงานโครงการ และเสนอข้อเท็จจริง พร้อมหลักฐานต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาระงับโครงการได้ตามที่เห็นสมควร สําหรับโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนจากคณะรัฐมนตรีให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ

          ให้สํานักงานแจ้งเป็นหนังสือลงทะเบียนตอบรับให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกร ที่ถูกระงับโครงการ นําเงินส่งคืนกองทุนภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งหนังสือดังกล่าว

ข้อ ๒๐ ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกร ติดตามรวบรวมเงินที่ได้รับจัดสรร รวมทั้ง ดอกผลที่เกิดขึ้น (ถ้ามี) นําส่งเงินคืนกองทุนตามกําหนดเวลาในบันทึกคํารับรองผู้เบิก

          กรณีไม่สามารถดําเนินการได้ ให้รายงานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่ วันสิ้นสุดโครงการ

ข้อ ๒๑ ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรนําดอกผลที่เกิดขึ้นจากการนําเงินฝากธนาคาร ตามข้อ ๑๑ ส่งเข้ากองทุนอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง หรือเมื่อสิ้นสุดโครงการที่ได้รับอนุมัติ แล้วแต่กรณี   

ข้อ ๒๒ ให้หน่วยงานของรัฐที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ได้รับเงินชดเชยค่าใช้จ่ายหรือผลขาดทุน จากการดําเนินงานในโครงการที่ได้รับอนุมัติ นําส่งเงินชดเชยที่ได้รับคืนกองทุนภายในสี่สิบห้าวันนับแต่ วันที่ได้รับจัดสรร และให้สํานักงานรายงานคณะกรรมการเพื่อทราบ

ข้อ ๒๓ ให้สํานักงานคิดเบี้ยปรับกับหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรที่ได้รับจัดสรร เงินกองทุนแล้วไม่สามารถส่งเงินคืนกองทุนได้ตามกําหนดเวลาในอัตราร้อยละสามต่อปี นับแต่วันผิดนัด ชําระหนี้จนกว่าจะชําระเสร็จสิ้น กรณีหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเกษตรกรไม่สามารถส่งเงินคืนกองทุนได้ภายในกําหนดเวลา ตามแผนการส่งเงินคืนกองทุนหรือตามข้อตกลง อาจขอลดหรืองดการคิดเบี้ยปรับต่อคณะกรรมการ ในเหตุต่อไปนี้

           (๑) ภัยธรรมชาติ

           (๒) โครงการที่ได้รับอนุมัติ เป็นการดําเนินการตามโครงการของรัฐบาล

           (๓) ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณชดเชย

           (๔) เหตุอื่น ๆ ที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบ หมวด ๒ การบัญชี

ข้อ ๒๔ ให้สํานักงานจัดทําบัญชีกองทุนให้เป็นไปตามมาตรฐานการจัดทําบัญชีสําหรับ หน่วยงานภาครัฐที่กระทรวงการคลังกําหนด

           การปิดบัญชีให้กระทําปีละครั้งโดยถือปีงบประมาณเป็นรอบปีบัญชี และให้จัดทํางบการเงิน ของกองทุนส่งให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นงวดบัญชี

           ให้รายงานงบการเงินของกองทุนและผลการตรวจสอบตามวรรคสองต่อคณะกรรมการและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อนําเสนอสภาผู้แทนราษฎรและ วุฒิสภาเพื่อทราบ

ข้อ ๒๕ เพื่อประโยชน์ในการจัดทํางบการเงินในภาพรวมของหน่วยงานภาครัฐ ให้สํานักงาน จัดส่งข้อมูลทางบัญชีของกองทุนเข้าสู่ระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Government Fiscal Management Information System หรือ GFMIS) ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลาง กําหนด

ข้อ ๒๖ ให้มีการตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการดําเนินงาน การเงิน การบัญชี และการพัสดุ ของกองทุนแล้วรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการทราบอย่างน้อยปีละสองครั้ง หมวด ๓ การตัดหนี้เป็นสูญ

ข้อ ๒๗ การตัดหนี้เป็นสูญของลูกหนี้เงินกองทุนให้สํานักงานนําเสนอคณะกรรมการพิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนดําเนินการตามกฎระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง

ข้อ ๒๘ วิธีปฏิบัติอื่นใดที่มิได้กําหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ โดยอนุโลม

ข้อ ๒๙ ในกรณีที่มีความจําเป็นต้องปฏิบัตินอกเหนือไปจากที่กําหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้เป็นไป ตามที่คณะกรรมการกําหนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ประกาศ ณ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ โอฬาร พิทักษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประธานกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร 

ตกลง