วันศุกร์ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.10 -09.00 น. ที่ห้องผู้ประกาศ สวท.อำนาจเจริญ  นางสาวรัตนาวดี สายโท นักวิชาการสัตวบาลปฏิบัติการ พร้อมด้วย นางสาวสรินทร์รัตน์ พระสุมี นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ  นางสาวภัณฑิรา วงศ์ก่อ นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับ นายธนกฤต เนื้ออ่อน จ.วิเคราะห์นโยบายและแผน สนง.กษ.อำนาจเจริญ  ดำเนินรายการนำเสนอข่าวสาร โครงการฯ/กิจกรรม ดังต่อไปนี้

           1. “ปศุสัตว์ แนะวิธีดูแลสุขภาพสัตว์ในช่วงฤดูแล้ง” ช่วงนี้ตอนกลางวันอากาศร้อน ฝากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เฝ้าระวังและสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทราบทันที สำหรับ โค-กระบือ ควรจัดหาอาหาร หญ้า และน้ำให้เพียงพอ รวมทั้งร่มเงาสำหรับสัตว์ในตอนกลางวัน  ส่วนสัตว์ปีก ไก่ เป็ด ควรจัดหาน้ำให้เพียงพอตลอดเวลา

           2. “ปศุสัตว เชิญชวนเกษตรกร ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์”

          กรมปศุสัตว์เปิดให้บริการเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้แล้ว วันนี้ – 31 มีนาคม พ.ศ. 2565 สามารถติดต่อขอขึ้นทะเบียนได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้ทำการเลี้ยงสัตว์ เพื่อทำเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญที่จะนำมาพัฒนาและการได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ กรณีประสบภัยพิบัติ และโรคระบาดสัตว์

          2.1 ขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียน

          – เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนให้พร้อม (ใช้เพียงใบเดียวก็สามารถทำได้แล้ว)

          – ครัวเรือนเกษตรกร 1 ครัวเรือน จะขอขึ้นทะเบียนได้เพียง 1 คนเท่านั้น ณ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอทุกอำเภอที่ใกล้ท่าน

         2.2 เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว

           ให้ไปปรับปรุงทะเบียนเกษตรทุกปี เนื่องจากจะมีจำนวนสัตว์ที่แจ้งลงทะเบียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วเปลี่ยนไป

         2.3 ประโยชน์ของการขึ้นทะเบียนเกษตรกร

          – ได้รับความช่วยเหลือเมื่อประสบภัยพิบัติ เช่น ภัยน้ำท่วม ภัยแล้ง และโรคระบาดสัตว์ เป็นต้น
          – ได้รับการฝึกอบรมให้ความรู้และสนับสนุนปัจจัยการเลี้ยงสัตว์
          – ได้รับความช่วยเหลือให้เข้าร่วมโครงการต่างๆ ของรัฐบาล

           *** อย่างไรก็ตามเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทุกท่าน สามารถติดต่อขอขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอพื้นที่ที่ท่านเลี้ยงสัตว์ได้แล้ววันนี้ !!!

          3. “ปศุสัตว์ เตือนผู้เลี้ยงสุกร เฝ้าระวังโรคอหิวาห์ตแอฟริการในสุกร”

          AFRICAN SWINE FEVER โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นโรคไวรัสที่ระบาดในสุกร หากเกิดโรคจะทำให้ตายเป็นจำนวนมาก ยังไม่มีวัคซีนและวิธีการรักษาที่จำเพาะ เป็นโรคที่ไม่ติดต่อสู่คน สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมหรือซากได้นานหลายเดือน ประเทศที่มีการระบาด จะมีผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคม

          อาการของโรค ตายเฉียบพลัน มีไข้สูง ผิวหนังแดง มีจุดเลือด ออกหรือรอยช้ำโดยเฉพาะใบหู ท้อง ขาหลัง

          การติดต่อของโรค การสัมผัสสิ่งคัดหลั่งของสุกรป่วย การหายใจเอาเชื้อเข้าไป การกินอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อน การโดนเห็บที่มีเชื้อกัด  มีอาการทางระบบอื่น เช่นทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร การแท้งในทุกช่วงของการตั้งท้อง

          พบทุกกลุ่มและทุกช่วงอายุ อัตราป่วย 100% อัตราตาย 30-100% ในลูกสุกร อัตราตายสูง 80-100% ภายใน 14 วัน

          การป้องกัน : เข้มงวดระบบการป้องกันโรค เช่น รู้แหล่งที่มาของสุกร ห้ามคนนอกเข้าฟาร์ม เป็นต้น แจ้งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือ หรือติดต่อ Call center : 063-225-6888 หรือแจ้งผ่าน Application DLD 4.0 (แจ้งการเกิดโรคระบาด) ห้ามเคลื่อนย้ายสุกรออกจากฟาร์ม

          4. “โรคพิษสุนัขบ้า” เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน สามารถป้องกันได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความตระหนักรู้ป้องกันตนเองอย่างถูกต้องหลังจากสัมผัสเชื้อโรค เนื่องจากโรคนี้ไม่ได้แสดงอาการทันทีหลังถูกสัตว์กัด  ประชาชนทุกคนสามารถร่วมมือร่วมใจกันกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมด โดยใช้หลัก 3 ป. ดังนี้  

          ป.ที่ 1 คือ ป้องกันสัตว์เป็นโรค  โดยการนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เริ่มฉีดครั้งแรกเมื่ออายุ 2-4 เดือน และฉีดซ้ำตามกำหนดทุกปี  ทำหมันสุนัขถาวรเพื่อไม่ให้มีจำนวนมากเกินความต้องการ จะช่วยลดสุนัขจรจัด และหากพบสัตว์ตายผิดปกติ ขอให้ส่งซากสัตว์ไปตรวจหาเชื้อซึ่งปัจจุบันสามารถส่งได้ทั้งตัวไม่ต้องตัดหัว ผู้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่งตรวจได้ที่สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ในต่างจังหวัดส่งที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและอำเภอ

          ป.ที่ 2 คือ ป้องกันการถูกกัด ไม่ปล่อยสุนัขหรือแมวออกนอกบ้านตามลำพัง หากต้องพาออกไปนอกบ้านให้ใส่สายจูง   นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถหลีกเลี่ยงการถูกกัดโดยยึดคาถา 5 ย. คือ 1.อย่าแหย่ให้สุนัขโมโห โกรธ 2.อย่าเหยียบหาง หัว ตัว ขา หรือ ทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่างๆ ตกใจ 3.อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า 4.อย่าหยิบชามข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร และ 5.อย่ายุ่งหรือเข้าใกล้กับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของหรือไม่ทราบประวัติ

         ป.ที่ 3 ป้องกันหลังถูกกัด โดยรีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่อย่างเบามือนานอย่างน้อย 10 นาที เพื่อกำจัดเชื้อออกไปให้มากที่สุด จากนั้นใส่ยาฆ่าเชื้อที่บาดแผล และกักสุนัขเพื่อดูอาการ 10 วัน หากสุนัขตายให้ส่งตรวจหาเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า และไปพบแพทย์ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ควรฉีดให้ครบชุดและตรงตามแพทย์นัด อาจท่องจำง่ายๆ คือ "ล้างแผล ใส่ยา กักหมา หาหมอ และฉีดวัคซีนให้ครบ เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้

           5. “ผลการดำเนินการชดเชยภัยพิบัติกรณี โรคลัมปี สกิน”           

          สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอำนาจเจริญ มีการประชุม ก.ช.ภ.จ. (คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด) ในวันที่ 23/12/64 โดยมีท่านธนูสินธ์ ไชยสิริ ท่านรองผู้ว่าราชจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ ผลการพิจารณาคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฯ กรณีโรคระบาดสัตว์ ชนิดลัมปี สกิน ในพื้นที่ 7 อำเภอ เกษตรกร จำนวน 1,676 ราย โคจำนวน 1,789 ตัว กระบือ 3 ตัว รวมสัตว์ทั้งสิ้น 1792 ตัว วงเงินช่วยเหลือทั้งหมดในรอบนี้คือ 36,382,000 บาท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดก็ได้ดำเนินการส่งเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ไปยังกรมปศุสัตว์ส่วนกลางให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบข้อมูล เรียบร้อยแล้ว กรมปศุสัตว์ก็จะดำเนินการส่งเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ส่งไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถ้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบแล้วถูกต้อง จะดำเนินการโอนเงินให้เกษตรกรได้ เพราะฉนั้นเกษตรกรควรจะตรวจสอบบัญชีของตัวเองว่ามีการเคลื่อนไหวบัญชีอยู่ตลอดไหม เพื่อไม่ให้บัญชีถูกปิด หากบัญชีถูกปิด เมื่อสำนักงานปศุสัตว์โอนเงินเข้าบัญชีก็จะไม่สามารถรับเงินได้

        สาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจาก มีหลายขั้นตอนในการพิจารณา ต้องผ่าน ก.ช.ภ.อ. ก.ช.ภ.จ. และทางรัฐบาลมีการกำหนดเกณฑ์เงินชดเชยใหม่

          จาก อายุน้อยกว่า 6 เดือน 6,000 บาท                  เป็น   13,000  บาท

                                6 เดือน ถึง 1 ปี 22,000             เป็น   24,000 บาท

                                มากกว่า 1 ปี ถึง 2 ปี 29,000       เป็น   32,000 บาท

                               มากกว่า 2 ปี   35,000               เป็น   39,000 บาท

          จึงทำให้ต้องมีการแก้ไขข้อมูลในส่วนของเงินชดเชยใหม่ เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินชดเชยจากสัตว์ตายมากขึ้นและเป็นผลประโยชน์แก่เกษตรกรอีกด้วย

6. กลุ่มสุขภาพสัตว์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด

        - การรณรงค์การฉีดวัคซีนโรคลัมปี สกิน   การฉีดวัคซีนโรคลัมปี สกิน เป้าหมาย 54,480 ตัว ฉีดไปแล้ว 54,480 ตัว ภาพรวมการฉีดวัคซีน 100% ทั้งจังหวัด การฉีดให้ฟังจากผู้นำชุมชนประกาศ หลังฉีด 30 นาที ดูอาการว่ามีผลข้างเคียงไหม และในช่วงระยะเวลา 1 เดือน ให้เกษตรกร คอยสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงของตัวท่านเองด้วย หากพบอาการผิดปกติให้แจ้งที่ สนง.ปศุสัตว์อำเภอที่ท่านอยู่ทันที เพื่อลดการสูญเสีย และเกษตรกรที่เลี้ยงโค-กระบือ แล้วยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน สามารถมาติดต่อและลงทะเบียนได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนมาเพิ่ม หน่วยงานจะดำเนินการลงพื้นที่ฉีดวัคซีนทันที

          7. กลุ่มพัฒนาคุณภาพสินค้าปศุสัตว์

         ตอนนี้ราคาเนื้อสุกร ได้ปรับลดลงแล้ว เนื้อแดง(สะโพก) ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 160-170 บาท  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ปลอดภัย รองรับสินค้า 7 ชนิด ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อเป็ด เนื้อโค ไข่ไก่สด ไข่เป็ดสด ไข่นกกระทาสด

          เน้นหลักเกณฑ์ 4 ประการ...สินค้าที่นำมาขายต้องมาจากฟาร์มมาตรฐาน GAP เชือดจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้รับใบอนุญาต หรือผลิตจากสถานที่รวบรวมไข่ที่ได้รับการรับรอง จำหน่ายในสถานที่สะอาดถูกสุขลักษณะ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของสินค้าได้

          เราจะรู้และเลือกซื้อสินค้าปศุสัตว์ได้อย่างไร ด้วยสถานที่จำหน่ายที่ผ่านการรับรอง จะได้รับใบประกาศและป้ายสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ไว้แสดง ณ จุดจำหน่าย ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในการเลือกซื้อสินค้า ว่ามีคุณภาพ ปลอดภัย และผ่านการตรวจสอบรับรองจากกรมปศุสัตว์   “ปศุสัตว์ OK” สัญลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นในการเลือกซื้อสินค้าว่ามีคุณภาพ ปลอดภัย