8 หน่วยงานเกษตรฯ จับมือบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า มุ่งส่งเสริมเทคโนโลยีผลิตมันฝรั่งคุณภาพ ตอบโจทย์ตลาด สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร
22 ก.ย. 2568
262
0
8หน่วยงานเกษตรฯจับมือบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า
8 หน่วยงานเกษตรฯ จับมือบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า มุ่งส่งเสริมเทคโนโลยีผลิตมันฝรั่งคุณภาพ ตอบโจทย์ตลาด สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

8 หน่วยงานเกษตรฯ จับมือบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า มุ่งส่งเสริมเทคโนโลยีผลิตมันฝรั่งคุณภาพ ตอบโจทย์ตลาด สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

     นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ระหว่าง 8 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด โดยมีนางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้อง BB-401 ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่า บันทึกความเข้าใจฯ (MOU) ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งอย่างยั่งยืน รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการผลิตมันฝรั่งคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ว่า “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” รวมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมมือกันพัฒนาการผลิตมันฝรั่งให้มีคุณภาพและยั่งยืน เพื่อประโยชน์ต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และภาคการเกษตรไทย

      “ความร่วมมือครั้งนี้จะก่อให้เกิดมูลค่าต่อภาคเกษตรในหลายด้าน เช่น ยกระดับรายได้ของเกษตรกร จากการปลูกมันฝรั่งพันธุ์โรงงานที่ตรงตามความต้องการของตลาด เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานสากล สร้างห่วงโซ่คุณค่าที่มั่นคง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการผลิต การตลาด การจัดการ และการผลักดันนวัตกรรมและงานวิจัย ให้เกิดการถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรการส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรองรับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม เช่น การถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีการเพาะปลูก และระบบการผลิตสมัยใหม่ ระบบตลาดที่เป็นธรรมและมั่นคง ที่มีการกำหนดราคาชัดเจนและรับซื้อผลผลิตตามข้อตกลง ระบบเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และลดความเสี่ยงให้กับเกษตรกร การสนับสนุนด้านงานวิจัยเพื่อพัฒนาสายพันธุ์และกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ” ปลัดเกษตร กล่าว

      นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมมันฝรั่งมีมูลค่าตลาดปลายน้ำกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปี และเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของระบบเกษตรพันธสัญญาที่ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังต้องนำเข้ามันฝรั่งสดและหัวพันธุ์ตัน จึงจำเป็นต้องพัฒนาพันธุ์มันฝรั่งไทยให้มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมชลประทาน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ร่วมกับ บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้ MOU นี้ ภาครัฐและเอกชนจะร่วมกันดำเนินงาน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนาพันธุ์มันฝรั่งไทยให้ทนต่อสภาพอากาศและโรค การผลิตและกระจายหัวพันธุ์คุณภาพ ลดการพึ่งพาการนำเข้า การบริหารจัดการพื้นที่และน้ำโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น ระบบน้ำหยด การถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกร ผ่านเกษตรแปลงใหญ่และเกษตรพันธสัญญา การรับซื้อผลผลิตอย่างเป็นธรรมเพื่อสร้างแรงจูงใจและรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ที่จะทำให้มันฝรั่งไทยก้าวสู่ความยั่งยืน ลดความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ ลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร

     นอกจากนี้ บันทึกความเข้าใจครั้งนี้จะส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งที่ทำงานร่วมกับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญาให้เกิดการผลิตมันฝรั่งได้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ยกระดับคุณภาพการทำงานร่วมกัน อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีผลบังคับใช้ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 21 กันยายน 2571 เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการผลิตมันฝรั่งของเกษตรกรอย่างยั่งยืน ซึ่งทุกฝ่ายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งของเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งเน้นให้เกิดกลไกสนับสนุนทางด้านการผลิต การวิจัยพัฒนา การตลาด และการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าที่โปร่งใส และเป็นธรรมต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งต่อไป

x
  • รวมเว็บไซต์ทั้งหมด
  • ภาคเหนือ
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ภาคกลาง
  • ภาคตะวันออก
  • ภาคใต้
ตกลง